จิตวิทยาบริหารคน ฉีกกฎทุกตำรา แก้ทุกปัญหาแบบ Copper

จิตวิทยา บริหารคน ฉีกกฎในตำรา ขจัดทุกปัญหาเรื่องคน!

Copper จิตวิทยาบริหารคน ฉีกกฎในตำรา ขจัดทุกปัญหาเรื่องคน!

พนักงานโกง บริการแย่ ไม่พัฒนาตัวเอง ลาออกบ่อย ทำงานไม่เต็มที่ ขาด ลา มาสาย ทะเลาะกัน ทำงานพลาดบ่อย ไม่รับผิดชอบ ใครเจอปัญหาเหล่านี้บ้าง? มาดู จิตวิทยาบริหารคน และวิธีแก้ปัญหาของพี่เกษม กุนซือใหญ่แห่ง Copper International buffet กัน

เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสังคมการทำงานร้านอาหารที่ดีที่สุด พนักงานมีความสุข บริการเยี่ยม เราถอดบทเรียนการใช้หลัก จิตวิทยาบริหารคน ของพี่เกษมออกมาได้ 5 ข้อห้ามหลักๆ ซึ่งแทบทุกข้อฉีกทุกกฎในตำราก็ว่าได้ !

1.อย่าขี้เหนียว! อยากได้คนดี คนเก่ง ต้องกล้าจ่าย !

“ตำราส่วนใหญ่บอกว่าต้นทุนพนักงานไม่ควรเกิน 15 – 20% แต่เวลาพี่จ้างพนักงาน ต้นทุนเป็นเรื่องสุดท้ายที่พี่นึกถึงเลย ไม่เคยมีกฎเกณฑ์ตายตัวว่า ต้องทำงานกี่เดือนถึงได้ขึ้นเงินเดือน หรือต้องปรับเงินเดือนปีละกี่ครั้ง

ถ้าเราเห็นแววว่า เฮ้ย! เด็กคนนี้ทำงานดี โอเคมาก เราขึ้นเงินให้เลย เพราะถ้าเรามัวแต่รอสิ้นปีตามกฎ ถ้ามีที่อื่นที่ได้เงินมากกว่าแค่เดือนละ 2000 บาท คุณเสียคนดีๆ ไปเลยนะ

และไม่ว่าร้านจะขาดทุน – กำไร เราต้องขึ้นเงินเดือน ต้องมีโบนัส เพราะเรารู้ว่าทั้งปี เขาหวังแค่นี้แหละ ได้จับเงินก้อน คุณต้องลองมาชั่งน้ำหนักกัน เงินเท่านี้ แต่เทียบกับงานที่เขาตั้งใจทำมากทั้งปี เขาทำเงินให้คุณได้มากกว่าแน่นอน”

เกษม Copper

2. อย่าปล่อยให้ลูกน้องจัดการปัญหาเรื่องคน เราต้องดูแลเอง

“สิ่งสำคัญของการบริหารคนคือ เราต้องเข้าใจมนุษย์ เข้าใจความต้องการของเขา คนทำงานมีแค่ 2 อย่างหลักๆ ที่อยากได้ หนึ่งคือ เงิน สอง คือ บรรยากาศการทำงานที่ดี ถ้าเขาได้สองสิ่งนี้ ยังไงเขาก็อยู่กับเรา

เจ้าของร้านส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหาเรื่องพนักงาน ชอบส่งให้หัวหน้าพนักงานไปเคลียร์ เพราะมันเป็นงานที่คุณไม่อยากทำ เป็นปัญหาจุกจิก แต่อย่าลืมว่าลูกน้องเขาอาจจะไม่ได้เข้าใจปัญหาเหมือนคุณ มาตรฐานการทำงานก็ไม่เหมือนคุณ วิธีการแก้ปัญหาก็ไม่เหมือนคุณ

ฉะนั้นถ้าพี่สังเกตเห็นว่ากำลังจะมีปัญหา เช่น มีเจ้าพ่อ เจ้าแม่ แบ่งพรรค แบ่งพวก เด็กของคนนั้น เด็กของคนนี้ พี่จะเรียกมาคุยเองทันทีเลย เราต้องปราบตั้งแต่ต้น จะปล่อยไม่ได้

พี่ยอมรับว่าตัวเองดุ ถามว่าทำไมต้องดุขนาดนี้ เพราะเรารู้ว่าถ้าเราปล่อย ปัญหามันเกิดแน่ องค์กรไปต่อไม่ได้

3. อย่าสอนให้เขาเป็นลูกจ้าง แต่จงสอนให้เขาเป็นหัวหน้า

สิ่งที่เราสอนพนักงานเสมอคือ เราสอนให้เขาเป็นหัวหน้า ไม่ได้สอนให้เขาเป็นลูกน้องตลอดชีวิต ไม่งั้นคุณก็ต้องสอนเขาตลอดไป ต้องสั่งเขาตลอดไปและก็เหนื่อยตลอดไป แต่ถ้าเราสอนให้เขาโตขึ้น สุดท้าย เขาก็จะทำงานเก่งขึ้น คุณก็สบาย

ทุกวันนี้ผู้ช่วยผู้จัดการของพี่ ก็เคยเป็นเด็กวิ่งอาหาร อยู่ในตำแหน่งต่ำสุดในร้านมาก่อน พนักงานรปภ. ก็เลื่อนมาเป็นเชฟ เด็กพาร์ทไทม์ที่ตอนนี้เคยเก็บจาน เราเห็นแววว่าเขามีไหวพริบ เราก็จับมาให้เป็นพนักงานดูแลเรื่องตัวเลข เรื่องสต๊อก ดูงานหลังร้าน

4. อย่าใส่ใจแค่เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็ต้องดูแล

“เจ้าของร้านหลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เรื่องความเป็นอยู่ บ้านอยู่ที่ไหน ครอบครัวทำอะไร พี่ถามหมด คนไหนบ้านอยู่ไกล เห็นนั่งรอรถเมล์อยู่ ถ้าพี่ว่างก็ไปส่ง เพราะว่าเรารู้ว่าถ้าเขากลับเอง กว่าจะถึงนานแน่ จะนั่งแท๊คซี่ ก็ 200 – 300 บาท แค่ค่ารถไป – กลับก็ไม่เหลือแล้ว พี่ไม่มีตังมาก่อน เลยเข้าใจ

อาหารของเราเลี้ยงอย่างดี วันไหนลูกค้าเยอะ เหนื่อยมาก ก็ปิดร้านเลี้ยง ให้เขากินอาหารในร้าน และเขาจะกินแค่พออิ่ม ป้องกันการขโมยได้ ที่ร้านนี้ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องขโมยหรือทุกเดือนพี่จะพาน้องๆ ไปดูหนัง ไปกินข้าว คนเหนื่อยก็อยากพักผ่อน อยากผ่อนคลาย บรรยากาศการทำงานมันก็จะดี”

5. อย่าเอาแต่ออกกฎ แต่ต้องทำให้เขามีส่วนร่วม

การทำงานที่นี่ เราไม่เอาแต่ออกกฎเองว่าต้องทำอะไร ยังไง เราให้เขาเขียนขั้นตอนการทำงานมาเอง ให้เขาใช้เวลานั่งเขียน แต่ละแผนก เดือนนึงเลยว่าหน้าที่ของตัวเองต้องทำอะไรบ้าง เราก็ให้หัวหน้าไปคุม เขียนผิด ก็ทำใหม่

สุดท้ายเราก็ได้ SOP (Standard Operation Procedures) เป็นคู่มือการทำงานของร้านที่ทุกคนมีส่วนร่วม แน่นอนว่าการที่เราเขียนให้ง่ายกว่า ทุกอย่างจบ ไม่ต้องเสียเวลา แต่ทุกอย่างมันถูกบังคับ ทุกคนก็เป็นเหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ทำตามคำสั่งอย่างเดียว แต่พอเขาเขียนเอง เขาถึงรู้ว่า แต่ละขั้นตอนมันต้องทำ มันสำคัญ เพราะมันออกมาจากตัวเขาเอง

หลังจากรู้หลักการบริหารพนักงานของพี่เกษมไปแล้ว มาฟังความรู้สึกของพนักงานในร้านที่ได้ทำงานกับ Copper กัน

การะเกด สิริวรามาศ (ต้นหลิว)

หนูเคยทำงานมาหลายที่ แต่ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น รู้สึกว่าสนุก มาทำงานไม่ได้รู้สึกเหนื่อย เหมือนมาเจอเพื่อนๆ แถมยังได้เงินด้วย หัวหน้าก็เหมือนเป็นพี่ ผู้จัดการก็เป็นเหมือนพ่อ เราคุยกันได้หมด ช่วยเหลือกัน ทุกคนเหมือนครอบครัว

ถึงเราจะเป็น Part Time ก็รู้สึกว่าต้องทำงานให้เต็มที่ เพราะเขาก็จ่ายเงินให้เราเหมือนกัน ลูกค้ามาที่ร้าน เขาแยกไม่ออกหรอกว่าใครเป็นประจำ ใครเป็น Part Time เขาก็ต้องคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ได้มาตรฐานเดียวกัน ฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่าต้องทำงานให้ดีที่สุด

ธัญพร สังวรราชทรัพย์ (น้ำฝน)

หนูเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ 3 เดือน แต่ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ได้รู้ว่าต้องเสิร์ฟยังไง เข้ากับลูกค้ายังไง รับออร์เดอร์ยังไง หนูรู้สึกว่าสังคมการทำงานที่นี่ดีมาก พี่พนักงานก็ดี พี่เกษมก็ใจดี ทุกคนช่วยเหลือกัน เป็นจุดที่ทำให้เราอยากมาทำงาน

พี่เกษมเป็นคนระเบียบเยอะ แต่เพื่อร้าน เราก็เข้าใจ หลังเวลางานเขาก็ใส่ใจพนักงาน บางครั้งเรากลับบ้านดึก เขาก็ไปส่งที่บ้าน พอมันเริ่มด้วยการให้ เริ่มจากการใส่ใจ เราก็รู้สึกว่าต้องให้ตอบ ถ้าพี่เกษมใส่ใจเรา เราก็ใส่ใจกับงานต่อ ใส่ใจลูกค้าต่อ เพื่อตอบแทนสิ่งที่เขาให้มา


“กลยุทธ์บุฟเฟ่ต์ เผยเคล็ดลับ ทำบุฟเฟ่ต์ให้มีกำไร รุ่นที่ 2”
.
++แชร์ทุกปัญหาที่ร้านบุฟเฟ่ต์ต้องเจอ++

++เผยทุกเคล็ดลับที่จะช่วยให้ร้านอยู่รอดและมีกำไร++
.
จาก 3 เซียน ธุรกิจบุฟเฟ่ต์ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนี้!
.
คุณธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu
คุณสุรเวช เตลาน เจ้าของร้าน Mo-Mo Paradise
คุณเกษม สัตยารักษ์ General Manager ร้าน Copper International Buffet

รายละเอียดเพิ่มเติม
http://amarinacademy.com/1193/course/buffet-course/

เรื่องแนะนำ

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้!

สถิติจาก Wongnai รายงานว่า ในบรรดาร้านอาหารที่เปิดหลังปี 2660 มีเพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด  ซึ่งปัญหาที่ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เป็นเพราะไม่ได้มีการวางแผนธุรกิจมาก่อน หรือศึกษากลุ่มลูกค้าในตลาดไม่ดีพอ และปัญหาสำคัญที่พบมากที่สุดจนทำให้ร้านต้องปิดกิจการลงนั้น คือการบริหารต้นทุนที่ผิดพลาด คุมต้นทุนไม่อยู่ บางร้านแม้จะขายดีแต่ก็ไม่มีกำไร ดังนั้น เจ้าของร้านควรจะต้องรู้จัก โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร ถ้าไม่อยากเจ๊ง   โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้! สิ่งจำเป็นที่คนจะเปิดร้านอาหารต้องรู้ ก็คือเรื่องของ โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร สิ่งนี้จะเป็นตัวแนะแนวทางว่า ในการจะเปิดร้านอาหาร คุณควรลงทุนกับอะไรบ้าง มีต้นทุนในส่วนไหนที่ต้องรู้ และจะต้องวางแผนอย่างไรก่อนที่จะเปิดร้านอาหาร  เบื้องต้นเราสามารถกำหนดโครงสร้างต้นทุนร้านอาหารได้เป็น 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้ ต้นทุนวัตถุดิบ (Food Cost) ค่าวัตถุดิบอาหาร รวมไปถึงค่าบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหาร เจ้าของร้านควรจะใส่ใจและควบคุมต้นทุนส่วนนี้ให้ดี โดยต้นทุนวัตถุดิบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน ถ้าเป็นร้านทั่วไปจะอยู่ที่ 25-30% แต่ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ อาจมีต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นเป็น 45-50% ซึ่งทางร้านอาจจะต้องชดเชยด้วยการลดต้นทุนด้านอื่น เช่น ต้นทุนแรงงาน โดยให้ลูกค้าบริการตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้กำไรในอัตราที่เหมาะสม หรือใช้วิธีการควบคุมต้นทุนในส่วนอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละร้าน   […]

ภูมิคุ้มกันร้านอาหาร ที่ชื่อว่า SOP

  มาทำความรู้จักกับ “ภูมิคุ้มกันร้านอาหาร ที่ชื่อว่า SOP ที่เจ้าของร้านทุกคนต้องมีกัน”   ผมเชื่อว่า ร้านอาหาร ก็เปรียบเสมือน ร่างกาย ของคนเรา ที่ประกอบไปด้วย อวัยวะ หลายส่วน ถ้าเจ้าของร้าน เปรียบเสมือน ส่วนหัว พนักงาน ก็จะเป็นแขนขา มือ และส่วน อื่นๆ ที่ทำงาน เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน สุขภาพของร้านอาหารที่ดี ก็เหมือนร่างกายที่มีสุขภาพดี คือทำงานออกมาได้ดี มีผลงานออกมาตามแผนที่วางไว้ แต่ถ้าร่างกาย เกิดเจ็บป่วย เราก็จะเห็นว่า มีอาการแปลกประหลาด เช่น อาหารออกมารสชาติ ไม่เหมือนเดิม คุณภาพการบริการเปลี่ยนไป จนลูกค้าเริ่มต่อว่า จะดีแค่ไหนถ้าร้านของเรามีเครื่องมือบางอย่าง ที่ทำหน้าที่ เป็นเหมือนภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถที่จะ ซ่อมแซมตัวเองได้ โดยที่เจ้าของร้านไม่ต้องคอยควบคุมอยู่ตลอด หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น วันนี้ผม จึงอยากเสนอ เครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่จะช่วยให้ร้านอาหารของเรา มีสุขภาพที่แข็งแรง การทำงานราบรื่นขึ้น สิ่งนี้เรียกว่า “SOP” (เอสโอพี) […]

กรณีศึกษา PRODUCT IS KING ขายดีได้ ไม่ต้องแข่งที่ “ราคา”

กรณีศึกษา PRODUCT IS KING ขายดีได้ ไม่ต้องแข่งที่ “ราคา” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพรีเมียม ที่เลือกจะไม่แข่งขันเรื่องราคา แต่กลับทำให้ขายดีได้   เคยสงสัยไหม ? ทำไมร้านอาหารประเภทเดียว ๆ กัน บางร้านขายราคาค่อนข้างสูงเลย แต่ขายดีมาก นั่นเป็นเพราะ ลูกค้าไม่ได้โฟกัสแค่ราคาขายของสินค้า แต่ยังให้ความสำคัญกับความรู้สึกคุ้มค่าที่จะได้รับจากราคาที่จ่ายไปด้วย ซึ่งเมื่อพูดถึงประเด็นนี้แล้ว ก็ทำให้นึกถึงโพสต์หนึ่งของคุณหนุ่ย การตลาดวันละตอน ที่ได้พูดถึงราคาขนมถ้วยของร้านทองสมิทธิ์ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสุดพรีเมียม ของคุณปลา อัจฉรา เจ้าของ iberry Group เครือร้านอาหารที่มีกว่า 50 สาขา PRODUCT IS KING โดยคุณหนุ่ยได้กล่าวประมาณว่า แม้ขนมถ้วยของทองสมิทธ์ จะมีราคาขายต่อถ้วยอยู่ที่คู่ละ 29 บาท ซึ่งดูแล้วก็อาจจะเทียบเท่าราคาขนมถ้วย 1 กล่องที่ขายกันตามท้องตลาด แต่ถึงอย่างนั้นผู้บริโภคหลาย ๆ คนก็ต่างบอกว่าขนมถ้วย และกล้วยทอดของทองสมิทธิ์อร่อยมาก จนบางคนไปเพื่อซื้อขนมของทองสมิทธิ์โดยเฉพาะ หรืออย่างเช่นร้าน Copper ที่ได้แตกไลน์ร้านอาหารใหม่ออกมาเป็น “เตี๋ยวคอปเปอร์” ที่ได้นำเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือยอดนิยมในร้าน […]

5 บริการสุดห่วย ที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากมาร้านของคุณ

1.การบริการที่ทำให้รู้สึกเหมือน ‘ไม่มีตัวตน’ หนึ่งในประสบการณ์ที่ลูกค้าร้านอาหารยอมรับว่าทำให้รู้สึกแย่ ก็คือ การที่พนักงานของร้านไม่ให้ความสนใจในการบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวต้อนรับ ลองจินตนาการระหว่างร้าน A : ซึ่งมีพนักงานต้อนรับกล่าวคำทักทาย และจัดการที่นั่งอย่างรวดเร็ว กับร้าน B: ที่ปล่อยให้ลูกค้ายืนรอ ไม่กล่าวคำทักทาย จนคุณต้องเดินเข้าไปหาที่นั่งเอง ร้านไหนที่คุณอยากเดินเข้าไปกินมากกว่ากัน การทักทายนั้นมีความสำคัญมากและเป็นด่านแรกในการสร้างความประทับใจ ซึ่งถ้าหากลูกค้ารู้สึกไม่ดีตั้งแต่เริ่มต้นก็มีแนวโน้มที่จะไม่พอใจในเรื่องอื่น ๆ ด้วย   2.พนักงานดูแลเหมือนเพื่อนสนิท…… จนเกินไป           บริการดุจญาติมิตรนั้นอาจดีสำหรับธุรกิจบางประเภท แต่การบริการสำหรับธุรกิจร้านอาหารนั้นลูกค้าส่วนใหญ่มักต้องการเวลาส่วนตัว การที่พนักงานคุยเล่นกันข้ามหัวลูกค้า หรือใช้คำพูดในการบริการที่แสดงความเป็นกันเองกับลูกค้ามากจนเกินไป นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกตะขิดตะขวงใจ ยังแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการให้บริการอีกด้วย     3.พนักงานไม่แม่นข้อมูลอาหาร และการบริการ           ร้านอาหารอร่อยขายได้ แต่ร้านอาหารอร่อยที่ขายดีอยู่ที่พนักงานให้บริการและให้คำแนะนำเมนูต่าง ๆ ได้อย่างมืออาชีพ ลองจินตนการว่า การที่ลูกค้ามีคำถามแล้วพนักงานเสิร์ฟต้องวิ่งไปถามพ่อครัว ถามผู้จัดการ นอกจากจะทำให้การบริการสะดุดแล้ว ลูกค้าย่อมรู้สึกถึงความไม่พร้อมในการให้บริการ หากพนักงานบริการได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน รู้จังหวะในการเข้าถึงลูกค้า การแนะนำเมนูที่เหมาะสมได้อย่างลื่นไหล สิ่งเหล่านี้จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน   4.การบริการที่สร้างความลำบากให้แก่ลูกค้า           ในยุคนี้การอำนวยความสะดวกสำคัญไม่แพ้รสชาติอาหาร เพราะเมื่อไหร่ที่ลูกค้ารู้สึกถึงความยุ่งยากในการบริการจากร้านของคุณ เขาจะตัดสินใจไปร้านอื่นทันที ยกตัวอย่างเช่น […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.