5 หลัก สร้างแบรนด์ สู่ร้านอาหารที่มีคน follow หลักล้าน!
ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องการสร้างแบรนด์ เพื่อทำให้ตัวเองแตกต่างจากคู่แข่ง แต่ร้านอาหารควรจะสร้างแบรนด์อย่างไร เรามีหลักการง่ายๆ มาแนะนำ
“คนเราควรใส่รองเท้าสองข้าง คนละแบรนด์ครับ” วันก่อนผมได้ยินเสียงสปอร์ตโฆษณาตัวหนึ่งสะดุดหูมากๆ
“ข้างนึงใส่ Adidas ส่วนรองเท้าอีกข้างให้ใส่ Nike” ฟังแค่นี้ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลยครับ เลยตั้งใจฟังต่อ
“ทำไมเหรอ? เพราะสโลแกน Adidas คือ Impossible is nothing ส่วน Nike คือ Just Do It” พูดง่ายๆ คือ เราควรใช้ชีวิตในแบบที่เราเชื่อว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้และที่สำคัญต้องลงมือทำด้วย
ทำไมทั้งสองแบรนด์ ใช้เพียงแค่ประโยคเดียว แต่เราก็เข้าใจเลยว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นเป็นแบบไหน คำตอบสั้นๆ ที่ผมมีให้ตัวเองคือ “พลังของการเล่าเรื่องของแบรนด์”
……………………………………………………………
ตัวอย่างในไทยที่ผมคิดว่าทำได้ดีมากๆ คือ “โจนส์สลัด” ร้านสลัดขวัญใจคนรุ่นใหม่ รสชาติถูกปากคนไทยทั่วบ้านทั่วเมือง
จุดที่น่าสนใจคือ โจนส์สลัดใช้เวลาไม่กี่ปี แต่สามารถขยายสาขาได้มากถึง 5 สาขา และใช้เวลาแค่ 2 ปีกว่า ก็มียอดคนติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจทะลุ 1 ล้านคน น่าสนใจมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ
ผมได้คุยกับ คุณกล้อง อริยะ คำภิโล เจ้าของหนุ่มหล่อผู้สร้างตำนาน “โจนส์สลัด” อยู่ 3-4 ครั้งแล้วครับ ทุกๆ ครั้งที่ได้คุยจะสัมผัสได้ถึงไฟในการทำงานและข้อคิดดีๆ ทุกครั้ง… ครั้งนี้ก็เช่นกันครับ
“ไม่มีโพสต์ใดโพสต์นึงที่ทำให้เพจดังเป็นพลุแตกครับ แต่ที่ผ่านมา ผมค่อยๆ ทำแล้วคนติดตามก็มีมากเรื่อย ๆมากกว่า” เป็นคำตอบของคุณกล้อง เมื่อผมถามว่า เขามีเคล็ดลับการเล่าเรื่องอย่างไรที่ทำให้เพจดังสุดๆ
และนั่นก็คือหลักการข้อแรกที่ทำให้ “โจนส์สลัด” เป็นเพจขวัญใจของคนรักสุขภาพทั่วประเทศครับ
หลักแรก คือ ”อย่าเริ่มต้นด้วยเงิน ให้เริ่มต้นด้วยความรัก”
คุณกล้องเล่าให้ผมฟังว่า การทำเพจมันเหนื่อยมาก ๆ เพราะเหมือนขี่หลังเสือ ถ้าอยากประสบความสำเร็จเราจะหยุดไม่ได้ ต้องทำไปเรื่อยๆ ครับ เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากความรัก ต้องมาจากแรงขับเคลื่อนอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ตัวเงิน
“ผมเคยป่วยหนักมาก เป็นเนื้องอก และในระหว่างการรักษาก็เห็นคนป่วยเยอะ” นั่นเลยเป็นที่มาของแรงผลักดันให้คุณกล้องอยากมอบความรู้ดีๆ ให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง โดยที่ไม่ได้มองว่าจะทำเงินได้มากมาย
การที่ไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้ง จะทำให้เรามีไอเดียใหม่ๆ เสมอๆ ความคิดไม่ตัน และสนุกกับมันไม่มีเบื่อครับ
หลักที่ สอง “ต้องหาตัวตนของเราให้เจอ”
ลุงโจนส์ ที่เป็น mascot ของร้านมีตัวตนจริง ๆ ครับ คุณกล้องเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มว่า “ลุงโจนส์ เป็นลุงของภรรยาของผม แกใจดีมาก และเป็นคนสอนสูตรน้ำสลัดที่เป็นอีกหนึ่งหัวใจความสำเร็จของร้าน”
คุณกล้องตกผลึกได้ว่า “ลุงโจนส์ เป็นคนใจดี” “เป็นผู้ให้” และเมื่อใส่บุคลิกความเป็นตัวตนของคุณกล้องลงไป ก็เลยทำให้ลุงโจนส์มีความขี้เล่น ชอบหยอดมุขตลกมากขึ้น กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
การที่มีตัวตนชัดเจนเป็นตัวเล่าเรื่องทั้งหมด มีส่วนช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ และเห็นความแตกต่างระหว่างเรากับคู่แข่ง เขียนมาแค่นี้ ผมยังเห็นรอยยิ้มของลุงโจนส์เลยครับ
หลักที่ สาม “อย่าเล่าในสิ่งที่เราอยากเล่าเพียงอย่างเดียว ต้องเป็นสิ่งที่คนอยากรู้ด้วย”
“นอนดึกยังไงให้สุขภาพดี” เป็นซีรีย์ที่คุณกล้องยกตัวอย่างให้ผมฟัง ว่าเป็นโพสต์ที่ฮิตมากที่สุด มีคนแชร์มากกว่า 250,000 ครั้ง!
ซีรีย์นี้คนแชร์เยอะมาก เพราะเป็นการเล่าเรื่องสุขภาพ Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนการเติบโต ผ่านตัวละครที่เป็นผี ที่ไปพ้องเสียงกับคำว่า Ghost ทำให้เรื่องวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจยากๆ กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายๆ
และอีกประเด็นคือ คุณกล้องจับจุดได้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้ชอบนอนดึก ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่านอนดึกจะทำให้สุขภาพไม่ดี คุณกล้องเลยพลิกมุมคิดว่า แล้วมีมุมไหนที่ “นอนดึก แล้วยังสุขภาพดีหรือเปล่า” โอ้โห… โดนเต็มๆครับ
อีกหนึ่งตัวอย่างที่คนแชร์เยอะคือ “ออกกำลังกายท่าไหน ให้หุ่นดี” ด้วยการเล่าเรื่องการออกกำลังกายแล้วแฝงด้วยมุขตลก เช่น การวิ่งหนีเมีย หรือการยืดเหยียดร่างกาย เปรียบเสมือนการกราบเมีย โดนใจกันสุดๆ คนแชร์เป็นหลักแสนอีกเช่นเคย
หลักที่ 4 “แยกระหว่างโพสต์ให้ความรู้ กับโพสต์ขายของ”
เหตุผลที่ควรจะแยกเป็นเพราะบางคนอาจมองว่าการไม่บอกว่าขายของ จะทำให้รู้สึกเหมือนถูกหลอกเมื่ออ่านโพสต์จบ ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อแบรนด์ของเรา
“เมื่อไหร่ที่จะขายของ ผมจะขายตรงๆ เลยครับ เช่น ลุงโจนส์ จะเปิดร้านแล้วที่สาขาไหน อยากจะชวนไปทาน เป็นต้น”
หลักที่ 5 “ลดความคาดหวัง”
“ทุกๆ โพสต์ผมจะโพสต์ด้วยความตั้งใจทำข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่เราไม่มีทางรู้ว่าโพสต์ไหนจะปังหรือไม่ปัง” คุณกล้องอธิบายเพิ่มว่า หลายครั้งบางโพสต์ที่ไม่คิดว่าจะปัง แต่มันก็ปัง แต่บางโพสต์ที่ตั้งใจสุดๆ แต่กลับเงียบ
เป็นเรื่องปกติครับที่เราจะดีใจ มีความสุขที่เห็นเนื้อหาของเราถูกแชร์ไปเยอะๆ แต่คนส่วนใหญ่จะทำใจไม่ได้ถ้าเนื้อหาที่ตั้งใจทำสุดๆ ใช้เวลากับมันมาก ๆ แต่ผลตอบรับที่ได้กลับน้อยกว่าที่คิด
พูดง่ายๆ คือ อย่าจมกับความเศร้า เพราะจะทำให้ไม่มีกำลังใจทำเนื้อหาดีๆ อื่นออกมา แต่เราควรวิเคราะห์ให้ได้ว่าที่โพสต์ไม่ฮิตเป็นเพราะอะไร เพื่อพัฒนาปรับปรุงครั้งต่อไป
ความเห็นของ “ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน”
หลักการเหล่านี้ ถ้าอ่านรอบแรกอาจจะรู้สึกว่าเรียบง่าย แต่ถ้าอ่านอีก 1-2 รอบจะรู้เลยว่านี่เป็นการตกผลึกของคนที่มีประสบการณ์ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาเยอะครับ ซึ่งเป็นแก่นแท้ของการสร้างช่องทาง social media ให้ปังเลยทีเดียว
แนวคิดในการปั้นเพจของคุณกล้องจะต่างกับเพจร้านอาหารอื่น ๆ นะครับ เพจอื่นอาจมองว่า ต้องเน้นถ่ายรูปอาหารสวยๆ อย่างเดียว แต่คุณกล้องเลือกที่จะเล่นภาพใหญ่กว่านั้นคือ การให้ความรู้ ในแบบที่เข้าถึงง่าย น่าสนใจ (แบบนี้เนื้อหาจะไม่มีวันตัน จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้เสมอ)
สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง เพจโจนส์สลัด กับ Nike และ Adidas คือ การมีตัวตนบุคลิกที่ชัดเจน และเล่าเรื่องราวตอกย้ำตัวตนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าเชื่อและจดจำตัวตนของแบรนด์ แม้จะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เมื่อไหร่ที่ลูกค้าเชื่อ … เขาก็จะชอบ
เมื่อไหร่ที่เราทำให้เขาชอบ เขาก็จะช็อป ซื้อของเรา เป็นแฟนคลับขาประจำครับ