5 เคล็ดลับ วิธีสร้างเพจ ให้เป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียล - Amarin Academy

5 เคล็ดลับ วิธีสร้างเพจ ให้เป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียล

5 เคล็ดลับ วิธีสร้างเพจ ให้เป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียล

ทุกวันนี้มี Fanpage เกิดขึ้นจำนวนมาก เพราะเป็นช่องทางการขายสินค้าที่ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องมีหน้าร้าน ก็สามารถจำหน่ายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้านึกถึงเราเป็นรายแรก ท่ามกลางร้านค้าอีกนับร้อยนับพันร้าน วันนี้เราจะมาเผย 5 เคล็ดลับ วิธีสร้างเพจ ให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียลมาแนะนำ

1. ตั้งชื่อร้านให้  “จำง่าย”

ทุกวันนี้ร้านค้าออนไลน์มีจำนวนมาก ชื่อร้านของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ลูกค้าจดจำเราได้ (ท่ามกลางร้านอีกนับร้อย) ชื่อร้านของเราจึงควรจดจำง่าย และมีไม่เกิน 2 – 3 พยางค์ ที่สำคัญต้อง “อ่านง่าย” ยิ่งปัจจุบัน ร้านค้านิยมตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษกันมากขึ้น เพื่อให้ดูทันสมัย แต่ข้อเสียคือ บางร้านเลือกใช้ศัพท์เก๋ๆ ที่ออกเสียงยาก กลายเป็นว่าลูกค้าจดจำเราไม่ได้ หรือจำได้แต่ไม่กล้าออกเสียง เพราะกลัวออกเสียงผิด (เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยประสบปัญหาอ่านชื่อยี่ห้อไม่ถูก ออกเสียงไม่ได้กันบ้างละ) นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการตั้งชื่อซ้ำ เพราะลูกค้าอาจจะสับสนได้

2.สร้างความ “แตกต่าง”

ก่อนจะแตกต่าง เราต้องรู้จักคู่แข่งเสียก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าเราควรต่างจากคู่แข่งอย่างไร จึงสามารถเอาชนะเขาได้ ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำคือ วิเคราะห์คู่แข่ง (รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง) ยิ่งเรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งมากเท่าใด โอกาสชนะในสนามแข่งก็ยิ่งมีมากเท่านั้น ที่สำคัญ อย่าคิดว่า “เขาทำดี ก็ก็อปปี้เสียเลย” โดยเด็ดขาด เพราะถ้าเราเลือกทำตาม เราก็จะกลายเป็นผู้ตามตลอดไป

เมื่อรู้จักคู่แข่งแล้ว ถัดมาคือวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค เพราะบางครั้งความต่างที่เราสร้างขึ้นอาจไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยผู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุด คือผู้ที่ผู้บริโภคจะจดจำได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เพจ Jones Salad ที่ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์อย่างมาก โดยเพจดังกล่าวให้คำนิยามตัวเองว่า
“เพจ Jones Salad ของเราเป็นที่แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเราจะรวบรวมความรู้ทางโภชนาการ งานวิจัยต่างๆ ที่มักจะมีความซับซ้อน เข้าใจยาก มาพยายามนำเสนอใหม่ ให้เห็นภาพ และ เข้าใจง่ายขึ้น”

นอกจากทำเพจเพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพแล้ว Jones Salad ยังทำธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพควบคู่ไปด้วย กลายเป็นว่าเพจดังกล่าวดึงคนเข้ามาติดตามด้วยเนื้อหาดีๆ และเนื้อหาดีๆ เหล่านั้นก็ดึงดูดคนให้เข้าไปใช้บริการร้านอาหารได้อีกทอดหนึ่ง

3.ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่หลอกลวง

ความซื่อสัตย์ คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ ควรทำให้ลูกค้าเห็นว่า ภาพและข้อความที่เราใช้ในการโฆษณานั้น “ตรงกัน” ไม่ใช่ภาพในเพจสวยงาม แต่ของจริงกลับตรงกันข้าม สุดท้ายลูกค้าก็จะใช้บริการเราเพียงครั้งเดียว และไม่คิดบอกต่อหรือซื้อซ้ำ แถมบางรายอาจมีทัศนคติลบกับแบรนด์ไปเลยก็ได้นอกจากนี้ข้อมูลต่างๆ ที่แนะนำลูกค้าต้องเป็นเรื่องจริง และมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือด้วย

เช่น ร้านค้า A ทำภาพในการโฆษณา รูปภาพอาหารน่ารับประทาน บรรกาศร้านสวยงาม แต่เมื่อลูกค้าไปตามการโฆษณาจริงๆ อาหารที่ได้มาจริงๆ กลับไม่เป็นไปตามโฆษณา (ที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมเรียกว่า “ไม่ตรงปก” ) ทำให้ความคาดหวังของลูกค้าติดลบ การที่ลูกค้าจะบอกต่อ หรือกลับมาใหม่นั้น เชื่อเลยว่าน้อยมากแน่ๆ

เทรนด์ร้านอาหารปี 2018

4.สินค้าและบริการดีจนต้อง “บอกต่อ”

ทุกวันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักเลือกซื้อสินค้าและบริการ จากการบอกต่อของเพื่อนๆ หรืออ่านจากรีวิวในสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook IG หรือ Pantip แต่ประเด็นสำคัญคือ ผู้ประกอบการจะทำอย่างไรให้เกิดการบอกต่อ จนแบรนด์เป็นที่รู้จัก

ธุรกิจหลายๆ รายมักเลือกใช้ Influencer หรือผู้มีชื่อเสียงในการแนะนำสินค้า แน่นอนว่าย่อมมีคนรู้จักสินค้าของคุณมากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันคือ ยิ่งเขาเป็นที่รู้จักมาก ก็ต้องเสียค่าตัวให้เขามากตามไปด้วย หรือหาก Influencer ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณจริงๆ แล้วผู้บริโภคล่วงรู้ หรือใช้แล้วไม่ดีตามที่โฆษณาไว้ อาจทำให้แบรนด์ของคุณหมดความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้มีอีกวิธีหนึ่งที่เริ่มได้จากตัวคุณเองคือ พัฒนาสินค้าและบริการของเราให้มีมาตรฐานที่ชัดเจน ไม่ว่าใช้บริการเมื่อไรมาตรฐานก็คงที่ การบริการก็ไม่ขาดตกบกพร่อง พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ลูกค้าย่อมประทับใจในสินค้าและบอกต่อแน่นอน

5.การมี “ส่วนร่วม” ในบทสนทนาของแฟนเพจของคุณ

การมีส่วนร่วมกับลูกเพจคือสิ่งสำคัญมาก เจ้าของร้านต้องหมั่นตรวจสอบหน้าเพจของตัวเอง เช่น กดไลค์คอมเม้นท์ของลูกเพจ ตอบคำถาม รวมทั้งสร้างสรรค์ Content บน Timeline อย่างสม่ำเสมอ อาจใช้ภาพสวยๆเพื่อดึงดูดคนเข้ามาในหน้า เพจนำเรื่องที่กำลังเป็นกระแส (และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ) มาแชร์ลงหน้าเพจ หรือมีกิจกรรมบนเพจ เพื่อให้ลูกเพจได้ร่วมเล่นเกมหรือพูดคุยกัน

สิ่งสำคัญอีกข้อคือ “แอดมินควรมีตัวตน” อาจจะสร้างเอกลักษณ์หรือคาแรกเตอร์ของแอดมินขึ้นมา เช่น เป็นผู้หญิง สนุกเฮฮา เป็นกันเอง เป็นต้น ซึ่งควรสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพราะลูกค้าจะจดจำบุคลิกของแอดมินและเชื่อมโยงกับแบรนด์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น การโต้ตอบของแอดมินเพจ “KFC” ที่เคยเป็นกระแสโด่งดังถึงไหวพริบในการตอบคำถาม ทำให้เกิดการแชร์บนโลกโซเชียล เป็นต้น

ท้ายที่สุดแล้ว การทำ Fanpage ของคุณ ให้เป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียลคือ ต้องเริ่มจากตัวสินค้าต้องแข็งแกร่ง คือมีจุดเด่นที่แตกต่างและตรงความต้องการของลูกค้า การสร้าง Content ต้องแข็งแรง คือเน้นให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เชื่อถือได้ อยู่ในกระแส รวมทั้งหมั่นศึกษาหาข้อมูลใหม่ๆ พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ก็ทำให้เพจของคุณเป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียลได้แล้ว

เรื่องแนะนำ

กลุ่มลูกค้าองค์กร

กลุ่มลูกค้าองค์กร 5 ประเภท ที่ธุรกิจเดลิเวอรี่ ควรเจาะตลาด

ในยุคปัจจุบันนี้ หลายคนคงพอทราบดีแล้วว่า ธุรกิจเดลิเวอรี่ กำลังเป็นที่นิยมและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป ต้องการความรวดเร็ว และความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ธุรกิจนี้ยังไปต่อได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาทั้งเรื่องฝุ่น และ ไวรัส Covid 19 ทำให้ผู้คนออกนอกบ้านน้อยลง และหันมาใช้บริการเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากให้บริการลูกค้าทั่วไปแล้ว อีกหนึ่งช่องทางน่าสนใจที่ธุรกิจเดลิเวอรี่ควรเจาะตลาด ก็คือ การจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กร เพราะจะช่วยให้ร้านได้ยอดขายต่อ ออเดอร์ในจำนวนที่มากกว่า ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดที่จะเจาะกลุ่มนี้ไว้ด้วย ซึ่ง กลุ่มลูกค้าองค์กร ที่น่าสนใจ 5 ประเภท มีดังนี้   กลุ่มลูกค้าองค์กร 5 ประเภท ที่ธุรกิจเดลิเวอรี่ ควรเจาะตลาด 1. กลุ่มบริษัทเอกชน ลูกค้ากลุ่มบริษัทเอกชนเหล่านี้ น่าสนใจมากๆ เพราะบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ มักจะมีการจัดอบรมให้กับพนักงานภายในบริษัทเป็นประจำทุกปี ในหนึ่งปีก็อาจจะมีการอบรมหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็ต้องมีอาหาร หรือของว่างรับรองเป็นจำนวนมากแน่นอน ดังนั้น ร้านอาหารอาจมีการเสนอเมนูอาหาร เซ็ตอาหาร หรือเซ็ตของว่างให้กับบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการติดต่อผ่านทางฝ่ายบุคคล ถ้าอยากได้ระยะยาว อาจจะลองติดต่อรับงานกันแบบทั้งปีเลยก็ได้   2. กลุ่มหน่วยงานราชการ ในกลุ่มหน่วยงานราชการนี้ ไม่ว่าจะเป็น […]

แอปพลิเคชัน Food Delivery

รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่องทางช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19

ณ ตอนนี้ ที่หลายคนกำลังอยู่ในช่วง Work From Home และมีการออกจากบ้านกันน้อยลง ทำให้บริการ Food Delivery เป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ จนเรียกได้ว่า แอปพลิเคชัน Food Delivery เป็นเหมือนพนักงานร้านอาหารประจำตัวของผู้บริโภคหลายๆ คนไปแล้ว ด้วยการอำนวยความสะดวก การนำเสนอเมนูอาหารจากร้านที่หลากหลาย โปรโมชั่นต่างๆ เหล่านี้ทำให้เป็นตัวช่วยที่ดี ที่ช่วยให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านได้  ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน Food Delivery มากมายเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค โดยแต่ละแอปพลิเคชัน จะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่ค่าบริการ ร้านอาหารที่เข้าร่วม และพื้นที่ให้บริการ วันนี้เราจึงนำเสนอแอปพลิเคชันFood Delivery ยอดนิยม ที่ผู้ประกอบการควรรู้จัก และนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณในช่วงวิกฤตแบบนี้มาให้ดูกันค่ะ   รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19 Line Man Line Man เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร เรียกแท็กซี่ ส่งพัสดุ เมสเซนเจอร์ และซื้อสินค้า ในส่วนของบริการส่งอาหารนั้น LINE […]

กินอาหารนอกบ้าน

เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องรู้ 4 พฤติกรรมของผู้บริโภคกับการ กินอาหารนอกบ้าน

จากสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เราได้เห็นถึงรูปแบบการกินอาหารนอกบ้านที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละปี แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.