เมื่อพนักงานออฟฟิศ เปิดร้านกาแฟ - Class café - Amarin Academy

เมื่อพนักงานออฟฟิศ เปิดร้านกาแฟ – Class café

เมื่อพนักงานออฟฟิศ ลาออกมา เปิดร้านกาแฟ ต้องเจอกับอะไรบ้าง – Class café

“อยากเปิดร้านอาหาร อยาก เปิดร้านกาแฟ อยากเป็นนายตัวเอง อยากมีอิสระ อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง” สารพัดความอยากที่กล่าวมานี้คือความฝันของพนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ช้าก่อน! ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลาออก เราอยากให้คุณอ่านบทสัมภาษณ์จากคุณ คุณมารุต ชุ่มขุนทด CEO & Founder ของ Class café อดีตนักการตลาดจากองค์กรยักษ์ใหญ่ ที่ตัดสินใจทิ้งความมั่นคงในชีวิต ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ที่จะทำให้คุณทราบว่า ถ้าลาออกมาเปิดร้านตามที่ฝัน คุณต้องเผชิญปัญหา (และปวดหัว) กับอะไรบ้าง ถ้าอ่านจบแล้วไม่กลัว ก็เตรียมตัวเป็นเจ้าของร้านได้เลย!

อยากทำธุรกิจ เพราะอยากมีอิสระ คือความคิดที่ผิด!

ผมเชื่อว่าหลายคนที่อยากทำธุรกิจเพราะอยากหนีออกจากระบบ อยากเป็นนายตัวเอง ผมก็หนีมาเหมือนกัน แต่รู้ไหมว่าการทำธุรกิจคืองานที่โคตรไม่มีอิสระเลย (หัวเราะ) ทุกวันนี้เสาร์-อาทิตย์ไม่เคยได้หยุด พักร้อนไม่มี ต้องคิด ต้องทำตลอดเวลา อย่าหวังว่าจะได้เที่ยวช่วงเทศกาล ตอนทำงานออฟฟิศ สิ้นปีก็เริ่มหาที่เที่ยวแล้วใช่ไหม แต่นี่ สิ้นปีเตรียมของกันอุตลุด เพราะวันหยุดคือวันขาย เชื่อว่าไม่มีใครกล้าปิดร้านแน่นอน

การทำธุรกิจกดดันกว่าตอนเป็นพนักงานมากๆ ผมมีลูกน้องอีก 110 คนให้ดูแล เงินเดือนกี่บาท ลองคูณเข้าไป ต้องดิ้นยิ่งกว่าตอนทำงานออฟฟิศอีก คนเป็นร้อยอยู่บนหลัง แล้วคนที่บ้านของเขาอีก ฉะนั้นต้องพยายามทำให้มันมั่นคงที่สุด แข็งแรงที่สุด และไปต่อเรื่อยๆ ได้

เบื้องหน้าสวยหรู เบื้องหลังแสนจะปวดหัว

คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ จะเล่าถึงเส้นทางอันสวยหรู แต่ไม่ค่อยมีใครเล่าเรื่องราวหลังร้านให้ฟังหรอกว่าคุณต้องเจอสารพัดปัญหาอะไรบ้าง วันนี้ผมจะสรุปให้ฟัง

อย่างแรกเลย ถ้าคุณจะเปิดร้าน คุณลดอีโก้ตัวเองได้หรือเปล่า ช่วงที่ผมเปิดร้านใหม่ๆ ลูกน้องเก่ามาอุดหนุน ผมชงกาแฟมาเสิร์ฟเองเลย สะใจกันใหญ่ ให้รองกรรมการผู้จัดการมาเสิร์ฟกาแฟ (หัวเราะ) หรือถ้าลูกค้าอ้วกหน้าร้านจะทำอย่างไร ส้วมเสีย ใครซ่อม บอกให้ลูกน้องซ่อมก็ซ่อมไม่เป็น ก็เจ้าของร้านนี่แหละต้องไปซ่อม ตอนที่ผมซ่อมส้วม ยังให้คนถ่ายรูปไปถามเพื่อนที่อยากลาออกมาเปิดร้านเลยว่า แน่ใจเหรอ ถ้าอยากจะลาออกจริงๆ ดูนี่ก่อน

อย่างที่สอง คุณพร้อมจะทำงานหนักหรือเปล่า ตอกตะปูเป็นไหม ยกของหนักได้หรือเปล่า ตื่นเช้ามาเปิดร้านได้ไหม ร้านเราเปิด 9 โมงก็จริง แต่คุณต้องไปเปิดร้าน 7 โมงเช้าทุกวัน เพื่อเตรียมของทุกอย่างให้พร้อม ผมต้องเป็น staff คนแรกเสมอ พอหลังจากร้านอยู่ตัวถึงจะเริ่มปล่อยให้ลูกน้องเปิดเอง

ถ้ายังไม่เห็นภาพลองขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้าตอน 4-5 ทุ่ม หรือไปเช้าๆ ประมาณตี 4 ตี 5 คุณจะเห็นคนรุ่นใหม่ ขนของเต็มรถ ยกขึ้นยกลง ส่งให้ห้างสรรพสินค้า

อย่างที่สามถ้าไม่มีลูกน้อง คุณทำงานเองได้ไหม ตอนนั้นผมตัดสินใจลองเปิด Class Cafe 24 ชั่วโมง ผมก็เป็นพนักงานคนแรกที่อยู่กะกลางคืน ตอนนั้นไม่มีลูกน้องคนไหนยอมอยู่เลย เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจะมีลูกค้า โอเค ไม่มีใครอยู่ใช่ไหม ได้ พี่อยู่เอง อยู่คนเดียวนี่แหละ เพราะเราทำเองได้ทุกอย่าง วันที่ 2-3 ลูกน้องถึงมาช่วย

หรือหากคุณเปิดร้านอาหาร ถ้าเชฟลา คุณทำอาหารเองได้ไหม ถ้าเชฟมาขอขึ้นเงินเดือน จะทำอย่างไร การที่เชฟลาออกนี่เรื่องใหญ่เลยนะ ถ้าคุณทำเองไม่เป็น ก็ต้องยอม และยอมต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้าทำเองเป็น ไม่ต้องกลัวเลย เพราะคุณไม่จำเป็นต้องพึ่งเขา

อย่างที่สี่ คุณทนรับสภาพการเงินที่ไม่แน่นอนได้ไหม เราเคยเป็นพนักงานออฟฟิศ มีเงินเดือนแน่นอนทุกเดือน แต่ถ้าเปิดร้าน วันดีคืนดียอดขายตก ไม่มีกำไร บางเดือนขาดทุน คุณโอเคหรือเปล่า หรือถ้าคุณเงินเดือนหลักแสน เปิดร้านได้กำไร 10% ของยอดขาย ต้องขายกาแฟกี่แก้วถึงจะได้กำไรเท่าเงินเดือน หลายคนพอเปิดไปสักพักจึงเริ่มคิดว่าไม่คุ้มแล้ว เสียเวลา ไปทำอย่างอื่นดีกว่า

แต่ผมคิดกลับกันสมมติสาขาแรกผมได้กำไรเดือนละ 50,000 บาท อย่างนั้นผมต้องเปิด 3 สาขาสิ ถึงจะได้กำไรเท่าเงินเดือน เลยต้องวางแผนเร่งขยายสาขา แต่คนส่วนใหญ่มักจะถอดใจเสียก่อน

อย่างที่ห้า คุณพร้อมรับความเสี่ยงไหม ร้านกาแฟ คือธุรกิจที่อัตราการเจ๊งสูงมาก เพราะคู่แข่งเกิดขึ้นได้ภายใน 2 ชั่วโมง แค่มีเงินใครๆ ก็เปิดได้ สาขาแรกของผม เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ เป็นของมือสอง ตู้เย็นมาจากร้านแถวสีลม ที่เพิ่งเปิดได้ 3 เดือนก็ปิดตัวลง หรือถ้าอยู่ดีๆ กาแฟแบรนด์ใหญ่ทำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ยอดขายคุณตกวูบเลยนะ จะแก้ปัญหาอย่างไร ผมโชคดีที่เคยอยู่ในสายการตลาดมาก่อนจึงพอจะแข่งกับเขาได้

อย่างสุดท้าย คุณปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับลูกน้องได้หรือเปล่า คุณเปิดร้านกาแฟ ไม่ได้อยู่กับลูกค้าเท่านั้น คุณต้องอยู่กับลูกน้องด้วย ซึ่งการบริหารคนยากมาก เราต้องเข้าใจเขาก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อก่อนผมอยู่องค์กรใหญ่ แรกๆ มาก็ใช้ศัพท์ Marketing ใช้ภาษาอังกฤษจ๋าเลย อธิบายให้ลูกน้องฟัง ไม่มีใครเข้าใจ ฉะนั้นเราต้องปรับตัว ก่อนอื่น อย่าไปดูถูกเขา เพราะเรามีเบื้องหลังชีวิตไม่เหมือนกัน ต้องถอดทุกอย่างออกไปให้หมด แล้วใช้ภาษาไทยล้วนๆ ให้เขาเข้าใจง่ายๆ

ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกว่า ไม่ว่าจะเจออุปสรรคแค่ไหนก็สู้ได้อยู่แล้ว อย่างนั้นก็ลุยเลยครับ!

 

เรื่องแนะนำ

หมีไรกิน

หมีไรกิน Creative food ต้นทุนเท่าเดิม เพิ่มเติมคือกำไร!

เมนูร้านเรามันธรรมดา จะขายแพงก็กลัวลูกค้าไม่ซื้อ แล้วจะเพิ่มยอดขายได้ยังไง เจ้าของร้าน หมีไรกิน จะมาแชร์แนวคิด การเปลี่ยนเมนูเดิมๆ ให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น

The Yard Hostel

The Yard Hostel โฮสเทลกลางอารีย์ อบอุ่นเหมือนนอนบ้านญาติ

หลักในการเป็นเจ้าของกิจการที่ดี คือเราให้ความสำคัญกับทุกๆ คน ไม่ใช่เพียงแค่แขกที่เข้าพัก แต่ยังรวมไปถึงพนักงานที่ทำงานร่วมกับเรา

Class café

ถอดบทเรียน Class Cafe แบรนด์กาแฟที่ “เกิด” จาก “สื่อออนไลน์”

เมื่อนักการตลาดจากองค์กรยักษ์ใหญ่ ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ชื่อว่า Class cafe โดยตั้งเป้ายอดขายปีละ 50 ล้าน! เขามีมุมมองการทำธุรกิจอย่างไร ไปติดตามกัน

QQ dessert

QQ dessert ขนมหวานเพื่อสุขภาพ เริ่มจากความชอบสู่ 6 สาขาทั่วกรุงเทพฯ

หลายคนคงชอบกินขนมหวานต่อท้ายมื้ออาหาร พอกินเสร็จแล้วก็รู้สึกผิดกับตัวเอง แต่ขนมหวานของ QQ dessert ทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับรสชาติหวานน้อย อร่อยหนัก

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.