สถานการณ์ ร้านสตรีทฟู้ด อยู่รอดอย่างไรในวิกฤต? - Amarin academy

สถานการณ์ ร้านสตรีทฟู้ด อยู่รอดอย่างไรในวิกฤต?

         ร้านสตรีทฟู้ด (Street food) หรือร้านอาหารริมทาง ถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพ ฯ ที่เรียกได้ว่าเป็น “เมืองหลวงของสตรีทฟู้ด” เพราะสามารถหาซื้ออาหารรสชาติดี ราคาไม่แพงได้ในทุกพื้นที่ทั่วไป อีกทั้งยังสะดวกรวดเร็วไม่แพ้ฟาสฟู้ดต่างๆ 

         ซึ่งร้านอาหารแบบนี้เป็นที่นิยมเนื่องจากต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก ใช้อุปกรณ์ไม่มาก และเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย รวมทั้งยังมีหลายรูปแบบ ทั้งร้านแบบรถเข็นเล็กๆ แผงลอย รถขายอาหาร (Food Truck) แบรนด์ร้านอาหารใหญ่ ๆ ก็สนใจที่จะลงมามีบทบาทในตลาดสตรีทฟู้ดมากขึ้น หรือแม้แต่คนทั่วไปก็หันมาขายอาหารข้างทาง เพื่อหารายได้ชดเชยงานที่หายไปจากวิกฤตไวรัสอีกด้วย 

สถานการณ์ ร้านสตรีทฟู้ด
อยู่รอดอย่างไรในวิกฤต?

ร้านสตรีทฟู้ด

วิกฤตโควิด-19 มีผลกระทบอย่างไรต่อตลาดสตรีทฟู้ด? 

         แน่นอนว่า ร้านสตรีทฟู้ด ที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ย่อมได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่หายไป ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก การประกาศเคอร์ฟิวทำให้ร้านอาหารต้องปรับเวลาเปิดปิดร้านใหม่ตามกำหนดเวลา และการสั่งปิดร้านตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ทำให้สามารถขายได้แค่แบบซื้อกลับบ้าน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของร้าน และต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหน้าที่ของพนักงานบางส่วน ในมุมพนักงานก็มีทั้งโดนลดค่าแรง จนไปถึงโดนเลิกจ้างงาน

         แต่สำหรับร้านสตรีทฟู้ดที่อยู่ในแหล่งชุมชน ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว และมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นลูกค้าในชุมชน จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงนัก และค่าเช่าที่อาจจะไม่มาก หรือไม่มีต้นทุนในส่วนนี้เลย รวมถึงเดิมทีร้านอาหารเหล่านี้ก็ไม่มีหน้าร้านสำหรับให้ลูกค้านั่งทานอาหารมากนักอยู่แล้ว ซึ่งการปิดเมืองทำให้คนที่ทำงานอยู่ที่บ้านก็สามารถออกมาซื้ออาหารในแหล่งที่อยู่อาศัย เพื่อนำกลับไปทานที่บ้านได้โดยไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องเข้าคิวแออัดกับใคร ไม่ต้องเสียค่าส่งอาหารเพิ่ม และได้ออกมาผ่อนคลายความเบื่อจากการอยู่แต่ในบ้าน

         ในแหล่งที่อยู่อาศัยช่วงตอนเย็น จะเห็นลูกค้าออกมาซื้ออาหารจากร้านข้างทาง ขายดีกันพอสมควร รายได้อาจจะลดลงบ้างแต่ร้านยังคงอยู่ได้ หรือบางร้านอาจจะขายดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะลูกค้าซื้อจำนวนมากขึ้นเพื่อนำกลับไปฝากครอบครัวที่อยู่แต่ในบ้าน

 

จุดขายของร้านสตรีทฟู้ดและการปรับตัว 

         จุดเด่นของร้านสตรีทฟู้ด คืออาหารรสชาติอร่อยในราคาที่จ่ายได้สบายๆ เมนูอาหารมีหลากหลายและคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ทำให้ร้านสตรีทฟู้ดไม่ต้องเสียค่าการตลาดสูงๆ ในการประชาสัมพันธ์ร้าน แม้จะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีนัก ผู้บริโภคก็ยังสามารถซื้อซ้ำได้เรื่อยๆ ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องลังเล หรือรอโอกาสพิเศษเหมือนอาหารราคาสูงจากร้านอาหารแบรนด์ใหญ่ๆ 

ร้านสตรีทฟู้ด
         ร้านสตรีทฟู้ดยังมีการปรับตัวเข้าสู่ระบบเดลิเวอรีมากขึ้น จากสถิติการสั่งอาหารออนไลน์ของคนไทยในเดือนมีนาคม 2563 โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) พบว่าอาหารสตรีทฟู้ดบางชนิด ได้แก่ อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวและอาหารประเภทเส้น เป็นอาหารยอดนิยมอันดับ 2 และอันดับ 3 ในการสั่งเดลิเวอรี รองมาจากอาหารฟาสฟู้ดในอันดับที่ 1 ซึ่งสถิตินี้แสดงให้เห็นความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจร้านสตรีทฟู้ดได้เป็นอย่างดี หรือในแอปพลิเคชันเองก็มีการโปรโมทร้านสตรีทฟู้ดต่างๆ เช่นกัน

         นอกจากนี้ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปักหมุดโลเคชั่นของร้าน ก็ช่วยให้ลูกค้าสะดวกต่อการค้นหาร้านสตรีทฟู้ดได้สะดวกมากขึ้น หรือการเพิ่มช่องทางติดต่อออนไลน์ ช่องทางการจ่ายเงินอื่นๆ ก็ช่วยให้ร้านรับออร์เดอร์จากลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

 

อย่าลืมสิ่งที่ร้านสตรีทฟู้ดต้องระวัง! 

         การระบาดของไวรัสทำให้ลูกค้าใส่ใจความสะอาดของอาหารมากขึ้น สิ่งสำคัญที่เจ้าของร้านสตรีทฟู้ดต้องให้ความสำคัญ คือสร้างความเชื่อมั่นในสุขอนามัยของร้านให้แก่ลูกค้า เพราะร้านอาหารริมทางไม่ได้มีครัวแยกเหมือนกับร้านอาหารใหญ่ๆ  

ร้านสตรีทฟู้ด

         ดังนั้น ลูกค้าจะสามารถเห็นตั้งแต่การจัดวางวัตถุดิบต่างๆ ความสะอาดของอุปกรณ์ครัว และขั้นตอนระหว่างการทำอาหาร เจ้าของร้านจึงควรจัดวางสิ่งของวัตถุดิบให้สะอาดเรียบร้อย มีภาชนะปิดมิดชิด รวมถึงการแต่งตัวของพนักงานก็ต้องดูสะอาด มีการใช้หน้ากากอนามัย ใส่ถุงมือระหว่างให้บริการ และใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ลูกค้ามั่นใจในการซื้ออาหารมากขึ้น

         อีกปัญหาที่ต้องระวัง คือการบริหารต้นทุนให้ได้กำไรหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ  ด้วยราคาอาหารที่ไม่สูงนัก หากนำร้านเข้าสู่แอปพลิเคชันเดลิเวอรีต่างๆ จะมีค่า GP เป็นต้นทุนหลักที่เพิ่มขึ้นมาอีก พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องบริหารจัดการกันให้ดี และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

 

         อย่าลืมว่าธุรกิจร้านอาหารมีความท้าทายอยู่เสมอ ไม่ว่าที่ร้านจะขายเมนูอะไร ผ่านทางหน้าร้านหรือช่องทางออนไลน์ ก็ต้องคิดวางแผนพัฒนาอยู่เสมอ เพราะคนที่ไม่มีรายได้จากวิกฤตก็อาจจะหันมาทำอาหารแข่งในแบบเดียวกัน จะต้องทำอย่างไรให้ร้านสตรีทฟู้ดของเราอร่อยที่สุดในละแวกนี้ เป็นจุดเด่นที่เมื่อพูดถึงเมนูนี้ทุกคนจะต้องนึกถึงร้านเรา เป็นเรื่องที่เจ้าของร้านต้องคิดหาอัตลักษณ์ และสร้างความโดดเด่นที่พอเพียงในแบบของตัวเองให้ได้ เพื่อโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้นต่อไป

เรื่องแนะนำ

ปรับตัววิกฤติโควิด-19 สู่การช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai Organic Platform

“เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่เราทำได้” ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เพราะวิกฤติการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ใครหลายคนต้องอยู่บ้าน พฤติกรรมการบริโภคจึงเปลี่ยนไป ความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลัก หลายๆ คนต่างต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ให้ได้ เช่นเดียวกับเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้เช่นกัน จากการที่ลูกค้าประจำที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร จำเป็นต้องยกเลิกออเดอร์ ทางสามพรานโมเดลจึงได้ริเริ่มนำเครื่องมือ Thai Organic Platform ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  (สนช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มาใช้เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงและซื้อขายสินค้าอินทรีย์ตรงจากกลุ่มเกษตรกรได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยเริ่มเปิดรับพรีออเดอร์ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตัวอย่างหน้าตาแอปพลิเคชั่น   ทางเราไม่รอช้า เมื่อสบโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน และผู้ริเริ่มสามพรานโมเดล จึงอยากจะมาเล่าถึงการปรับตัววิกฤติโควิด-19  และความคืบหน้าการเปิดใช้แอปพลิเคชัน Thai Organic Platform ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ แพลตฟอร์มขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ร่วมกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 “สังคมอินทรีย์เราเน้นเรื่องการเชื่อมโยงห่วงโซ่ ตั้งแต่ผู้ผลิตคือเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร และผู้บริโภคคือลูกค้า เหมือนเราเป็นตัวกลางเชื่อมให้ห่วงโซ่ทั้งหมดมาเจอกัน พอมีวิกฤติอย่างนี้เกิดขึ้น เราเป็นสังคมเดียวกัน […]

โออิชิ

โออิชิ กรุ๊ป เปิดกลยุทธ์ ปี 2020 บุกตลาดเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และอาหารพร้อมทาน

ปีที่ผ่านมาธุรกิจหลักของ โออิชิ กรุ๊ป ที่เราเห็นได้ชัดก็คือ ธุรกิจเครื่องดื่ม ที่เรารู้จักกันก็คือ เครื่องดื่มชาเขียว  ต่อมาคือ ธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา โออิชิ ได้เริ่มกลับมาดันธุรกิจกลุ่มอาหารพร้อมทาน หรือแพ็กเกจจิ้งฟู้ด อีกครั้ง เพื่อตอบรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับผลประกอบการของ โออิชิ กรุ๊ป รอบปีงบประมาณ 2562 (ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562) มียอดรายได้รวม 13,631 ล้านบาท เติบโต 8.2% และผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,229 ล้านบาท ธุรกิจเครื่องดื่ม 6,501 ล้านบาท เติบโต 6% ธุรกิจอาหาร 7,130 ล้านบาท เติบโต 9% กำไรสุทธิรวมของบริษัท 1,229 ล้านบาท เติบโต 9% กำไรจากธุรกิจเครื่องดื่ม 869 ล้านบาท เติบโต […]

กรมพัฒฯ ชวนผู้ประกอบการร้านอาหาร สมัครรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประเทศไทย ปี 67

กรมพัฒฯ ชวนผู้ประกอบการร้านอาหารไทย สมัครเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในประเทศไทย ประจำปี 2567 ขยายเวลาการรับสมัครถึง 7 มิถุนายน 67 นี้เท่านั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า…ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารไทยทั่วประเทศ  สมัครเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในประเทศไทย ประจำปี 2567 “อาหารไทยต้อง Thai Select” การันตรีคุณภาพ บริการ และรสชาติอาหารมาตรฐานอาหารไทย พร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งการส่งเสริมการตลาด หรือร่วมแคมเปญกับหน่วยงานพันธมิตร เข้ารับการอบรมสัมมนาธุรกิจร้านอาหาร และการประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Media ของ Thai SELECT สอบถามรายละเอียด โทร : 02 547 5954 กองธุรกิจบริการ สนใจสมัคร https://docs.google.com/…/1FAIpQLSdXaT5vrH…/formResponse

ลดใช้พลาสติก

ฟู้ดแพชชั่น ผนึก 3 พันธมิตร ลดใช้พลาสติก Single-use plastic

เรียกว่าเป็นปีที่หลายองค์กรใหญ่ ในธุรกิจอาหาร เริ่มตื่นตัวและให้ความสำคัญในการรณรงค์เรื่องการ ลดใช้พลาสติก แบบใช้แล้วทิ้ง ( single-use Plastic ) มากขึ้น ด้วยการใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่าย หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เพื่อลดจำนวนขยะพลาสติกที่จะเกิดขึ้น ล่าสุดบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของเชนร้านอาหาร บาร์บีคิว พลาซ่า, จุ่มแซบฮัท, สเปซ คิว, ฌานา และ เรดซัน ก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ประกาศเปลี่ยนมาใช้กล่องชานอ้อย ในการส่งอาหารเดลิเวอรี่ ของร้านในเครือ   ฟู้ดแพชชั่น เดินหน้า ลดใช้พลาสติก Single-use Plastic ในขณะที่ธุรกิจอาหารแบบเดลิเวอรี่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายร้านให้หันมาเสิร์ฟเดลิเวอรี่กันมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ แต่รู้หรือไม่ว่า การเติบโตของธุรกิจเดลิเวอรี่ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เป็นการเพิ่มการใช้พลาสติกมากขึ้นเช่นกัน การสั่งอาหารเดลิเวอรี่ 1 ครั้ง แน่นอนว่าจะต้องมีพลาสติกเข้ามาเกี่ยวข้องในส่วนของบรรจุภัณฑ์หรืออุปกรณ์ในการทานอาหาร ใน 1 ออเดอร์ สร้างขยะถึง 4 ชิ้น คือ กล่อง ช้อนส้อม ถุงน้ำจิ้ม และถุงใส่ของ อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตลาดเดลิเวอรี่ไทยปี 2562 มีมูลค่าอยู่ที่ 35,000 […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.