เจาะโอกาสทอง! ร้านอาหารในยุค Aging Society ( สังคมผู้สูงอายุ ) - Amarin Academy

เจาะโอกาสทอง! ร้านอาหารในยุค Aging Society ( สังคมผู้สูงอายุ )

ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society และในปี 2564 ประเทศไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุ 20 % หรือมากกว่า 13 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ และยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจอาหารไม่ควรมองข้าม ลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะอาจเป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจอาหารของคุณในอนาคตก็เป็นได้ แล้วเพราะอะไรจึงต้องให้ความสำคัญ และหันมาเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุ

 

เจาะโอกาสทอง!

ร้านอาหารยุค Aging Society

( สังคมผู้สูงอายุ )

  1. มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีสถานะทางการเงินที่ดีกว่ากลุ่มอายุอื่น และพร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุในปัจจุบันยังมีการซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ
  2. มีช่องว่างทางการตลาด คู่แข่งน้อย สิ่งที่กลุ่มผู้สูงวัยต้องการเป็นอันดับ 1 คือร้านอาหารที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับให้บริการผู้สูงอายุ เช่น บริการเรื่องรถเข็น หรือการเดินของผู้สูงอายุให้มีความสะดวก ซึ่งในปัจจุบันร้านที่ตอบโจทย์สิ่งนี้ยังมีไม่มากนัก
  3. Brand Loyalty ลูกค้ากลุ่มนี้มีโอกาสในการเป็นลูกค้าประจำสูง เนื่องจากผู้สูงอายุมีความผูกพันกับร้านอาหารที่ตัวเองรู้สึกชอบมากกว่าลูกค้าในวัยอื่นๆ ซึ่งอาจจะทำให้ร้านได้ฐานลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำสูงขึ้นมาก
  4. กลุ่มลูกค้าที่ได้กลับมาไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ แต่ยังรวมถึงลูกหลานที่พาครอบครัวมารับประทานอาหารในโอกาสต่างๆ หรือซื้อเพื่อนำกลับไปฝากผู้ใหญ่ที่บ้านด้วย

สังคมผู้สูงอายุ

สิ่งที่ต้องคำนึง ในการเปิดร้านอาหารเพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ มี 3 ข้อ ดังนี้

1.ด้านอาหาร

แน่นอนว่าผู้สูงอายุย่อมจะมีโรคประจำตัว บางคนอาจเป็นโรคประจำตัวที่เรื้อรัง ทำให้ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพน้อยลง อาหารสำหรับผู้สูงอายุจึงแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าในวัยอื่นๆ นอกจากอาหารควรจะมีรสชาติอร่อยถูกปากแล้ว เมนูต่างๆ ควรจะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีวัตถุดิบที่มีสรรพคุณดีต่อร่างกาย และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น

  • อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ แต่ให้พลังงานต่ำ โดยมีส่วนประกอบหลักจากผัก ผลไม้ ธัญพืชต่าง ๆ ข้าวไม่ขัดสี และใช้โปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลา หรือไก่ ที่ผู้สูงอายุย่อยได้ง่าย รวมถึงเลือกใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพในการปรุงอาหาร เช่น น้ำมันมะกอกที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • มีใยอาหารจากผักและผลไม้ เพื่อลดอาการท้องผูก หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารในผู้สูงอายุ และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
  • เป็นอาหารที่เคี้ยวได้ง่าย ไม่เหนียวหรือแข็งเกินไป ไม่สุกเกินไปจนแข็งกระด้าง หรือเพิ่มเมนูอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น ซุป หรือข้าวต้มธัญพืชต่างๆ
  • รสชาติต้องไม่จัด ลดปริมาณเกลือและน้ำตาลที่ใช้ เพราะมีผลต่อความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด อาจจะเลี่ยงไปใช้ซอสสูตรโซเดียมต่ำ หรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติแทน
  • ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศ เพื่อช่วยเสริมกลิ่นและรสชาติอาหารให้น่ารับประทานมากขึ้น แก้ปัญหาเบื่ออาหารที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดจากต่อมรับรสทำงานได้ไม่ดี หรือการหลั่งน้ำลายลดลง และยังสามารถบรรยายประโยชน์สรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพรในอาหาร เป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้อีกด้วย
  • อาหารเพื่อความงามและชะลอวัย โดยสถิติแล้วผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยเยอะกว่าผู้ชาย และเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบทานอาหารนอกบ้านมากกว่าด้วย การทำอาหารหรือเครื่องดื่มโดยใช้วัตถุดิบ เช่น ผัก ผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยเสริมความงาม หรือบำรุงผิวพรรณก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข และผู้หญิงทุกวัยก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลตัวเองเสมอ

สังคมผู้สูงอายุ

2.ด้านบรรยากาศภายในร้านอาหาร

  • การออกแบบเพื่อผู้สูงอายุ สิ่งต่างๆ ภายในร้านควรจะออกแบบให้ผู้สูงอายุใช้งานได้ง่าย เช่น รายการเมนูเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่ชัดเจน บอกข้อมูลทางโภชนาการ ประโยชน์หรือสรรพคุณของวัตถุดิบในอาหาร รวมถึงเลือกอุปกรณ์รับประทานอาหารมีน้ำหนักเบาเพื่อให้หยิบจับได้ง่าย
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ พื้นของร้านควรจะทำจากวัสดุที่ไม่ลื่น ทำความสะอาดง่าย ไม่มีรอยต่อหรือพื้นต่างระดับที่ทำให้สะดุดหกล้ม ตามทางเดินอาจจะเพิ่มราวจับทรงตัวเพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินได้อย่างมั่นใจ รวมถึงในห้องน้ำเองก็ควรจะมีแผ่นกันลื่น มีราวจับ หรือออกแบบให้สามารถนำรถเข็นวีลแชร์สำหรับผู้สูงอายุเข้าไปได้ ประตูก็ควรเป็นประตูเลื่อนที่มีน้ำหนักเบา เพื่อให้ผู้สูงอายุเปิดได้โดยไม่ลำบาก
  • จัดแสงให้เหมาะสม เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาทางสายตา แสงไฟในร้านจึงควรจะมีความสว่างอย่างเพียงพอและเหมาะสมต่อการรับประทานอาหาร ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป ไม่ใช้แสงจ้าหรือสีฉูดฉาด ช่วยถนอมสายตา ถ้ามีแสงธรรมชาติก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศในร้านอบอุ่น และอาหารดูน่ารับประทานมากขึ้น
  • เฟอร์นิเจอร์ในร้าน เลือกใช้โต๊ะมีความมั่นคง ไม่มีเหลี่ยมมุมที่อาจทำให้เกิดอันตราย ใต้โต๊ะควรเปิดโล่งให้สามารถนำรถเข็นวีลแชร์เข้าไปนั่งได้สะดวก เก้าอี้ควรมีพนักพิงและที่วางแขนเพื่อช่วยในการลุกขึ้นยืน ระยะห่างระหว่างโต๊ะอาหารมีที่สำหรับให้รถเข็นผ่านไปได้ และมีระยะที่เพียงพอต่อการหมุนตัวของรถเข็น รวมถึงให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้า
  • สร้างมุมพิเศษ อาจจะเป็นมุมรวมหนังสือ โปสเตอร์หนัง แผ่นเพลง หรือขนมของใช้ในยุคต่างๆ ที่ลูกค้าสามารถมาเดินชมและนึกถึงความทรงจำดี ๆ ในวัยหนุ่มสาว อาจจะช่วยให้ลูกค้าเพิ่ม Emotional Value หรือคุณค่าทางอารมณ์ สร้างความรู้สึกเชื่อมโยงและเป็นส่วนหนึ่งกับร้านอาหารได้

สังคมผู้สูงอายุ

3.ด้านการบริการอื่นๆ 

  • บริการส่งอาหารเดลิเวอรี่ สำหรับผู้สูงอายุ การออกไปซื้อหรือไปทานอาหารนอกบ้านอาจจะเป็นเรื่องลำบาก ไม่สะดวกในการยกจับสิ่งของ หรือบางคนไม่ชอบออกจากบ้านไปไหน บริการนี้จึงช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสะดวกมากขึ้น 
  • สร้างความรู้สึกคุ้มค่า ผู้สูงอายุส่วนมากตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนก่อนซื้อ และมีแนวโน้มที่จะซื้อสิ่งที่รู้สึกคุ้มค่ามากกว่า ลองคิดโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มลูกค้าใหม่ๆ หรือมีการทำบัตรสมาชิกของร้านอาหารเพื่อเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำ
  • ให้ร้านเป็นมากกว่าที่รับประทานอาหาร เมื่อเกษียณจากการทำงานแล้ว ผู้สูงอายุหลายๆ คนอาจจะเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เหงา หรือแม้แต่รู้สึกรู้สึกลดคุณค่าในตนเอง ทำให้เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ลองจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ เพื่อให้ร้านอาหารของคุณเป็นสถานที่ในการรวมกลุ่มและมีกิจกรรมร่วมกันของผู้สูงอายุ เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น ผูกพันกับร้าน และอาจจะนำไปสู่ฐานลูกค้าประจำได้

เทรนด์ของสังคมผู้สูงอายุนี้ เรียกว่าเป็นโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ สำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจอาหาร คนที่มองเห็นโอกาสและปรับตัวได้เร็ว คือผู้ที่จะก้าวนำคนอื่น นอกเหนือไปจากเรื่องรสชาติอาหาร ก็คือการบริการที่ดีต่อลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการความใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ การบริการดุจดูแลญาติผู้ใหญ่ของคุณเอง อาจจะทำให้ร้านประสบความสำเร็จ และได้ใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้ในเวลาอันสั้น

 

ขอบคุณข้อมูล   positioningmag  / officemate / scgbuildingmaterials

 


           กลับมาอีกครั้งกับหลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3 หลักสูตรที่จะทำให้ผู้ประกอบการเรียนรู้การบริหารบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ ไขข้อข้องใจปัญหาเรื่องพนักงานลาออกบ่อย ขาด ลา มาสาย ทะเลาะกัน การหาพนักงานที่ดี โครงสร้างเงินเดือน สัญญาจ้างงาน รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานต่างๆ ที่ต้องรู้ โดยวิทยากร คือ อาจารย์ พีรพัฒน์ กองทอง ผู้มีประสบการณ์จากธุรกิจอาหารเชนใหญ่อย่าง แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ที่จะมาพร้อมแขก สุดพิเศษ ร่วมแชร์ประสบการณ์การบริหารจัดการพนักงานในร้าน งานนี้จะจัดขั้นในวันอังคารที่ 31 มีนาคม – วันพุธที่ 1 เมษายน 2563  เวลา 9.00-17.00 น. 

 

คลิกสมัครด่วน! หลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3

HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3

 

เรื่องแนะนำ

เทคนิคลับ พูดอย่างไรให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม

ทักษะที่เจ้าของร้านควรเทรนด์พนักงานเสิร์ฟ นอกจากการบริการ คือการพูดจูงใจให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม แต่จะมีวิธีใดบ้าง ไปดูกันเลย

โฆษณาร้านอาหาร

การใช้ QR Code เพื่อ โฆษณาร้านอาหาร

        การ โฆษณาร้านอาหาร ให้เข้าถึงผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ทุกคนหันมาเน้นบริการเดลิเวอรี การใช้ QR-code เป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลของร้านได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนเจ้าของร้านอาหารก็สามารถทำการตลาดผ่าน QR code โดยใช้ต้นทุนต่ำ รวมถึงดูสถิติการเข้าถึงจากจำนวนครั้งที่มีการสแกน QR code ได้อย่างง่ายดาย บทความนี้ขอนำเสนอการใช้ QR Code ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจร้านอาหารในรูปแบบต่างๆ และช่องทางการสร้าง QR CODE ออนไลน์ได้ง่ายๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย การใช้ QR Code เพื่อ โฆษณาร้านอาหาร         “QR Code” ย่อมาจากคำว่า Quick Response Code เป็นรหัสบาร์โค้ดในรูปแบบ 2 มิติ สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยโดยสแกนจากกล้องในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเลือกสร้าง QR Code ที่แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ ได้แก่ เว็บไซต์ของร้านอาหาร  ข้อมูลช่องทางการติดต่อ  […]

กลยุทธ์การตั้งราคา

กลยุทธ์การตั้งราคา ทำอย่างไร ให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้ม”

เคยเข้าร้านแล้วเจอสินค้าที่รู้สึกว่า ถ้าไม่ซื้อจะถือว่าพลาดไหม นั่นเป็นเพราะเจ้าของร้านใช้ กลยุทธ์การตั้งราคา ที่ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่า แม้ต้องเสียเงินเพิ่ม

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.