Living House กิน ช็อป จบในที่เดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่-Amarin Academy

Living House สร้างจุดเด่น กิน ช็อป จบในที่เดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่

เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตัวผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัว และปรับธุรกิจของตัวเองให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ที่เปิดโซนใหม่ชื่อว่า Living House ที่ให้ลูกค้า กิน ช็อป ได้ครบในที่เดียว

 

Living House สร้างจุดเด่น กิน ช็อป จบในที่เดียว

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่

ความสะดวกสบาย และครบวงจรเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความต้องการอย่างมาก ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ความเร่งรีบในสังคม ทำให้ความสะดวก รวดเร็วกลายเป็นความต้องการอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค แม้แต่ห้างสรรพสินค้าเองที่เราคิดว่า น่าจะมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องมีการปรับตัวเช่นกัน อย่างเช่นการเปิดตัวโซนใหม่ Living House ชั้น 7 Central สาขา Central World

เป็นการ ผสมผสานกันระหว่างร้านอาหารกับแผนกโฮม ให้ลูกค้าได้ช็อปปิ้งไปพร้อมกับ รับประทานอาหารไปด้วยในที่เดียวกัน ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะในยุคนี้ต้องปรับตัวเพื่อดึงดูดลูยกค้าให้ได้มากที่สุด

Living House

โซน Living House แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

1.Co-Living จะเป็นส่วนแผนกโฮม ให้ลูกค้าได้ช็อปปิ้งเครื่องใช้ภายในบ้านเครื่องนอน สินค้าที่ระลึกแบบไทยๆ รวมถึงยังมีสปาที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวให้ได้มาใช้พักผ่อนหลังซื้อของได้ด้วย และอีกหนึ่งส่วนที่น่าสนใจก็คือ

2. Co-Eating โซนเอาใจคนรักการรับประทานอาหาร ด้วยการรวบรวมร้านอาหารหลายสไตล์ มากถึง 22 ร้านซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนย่อยลงมาอีก คือ โซนที่เป็นสตรีทฟู้ด และส่วนที่เป็น food Heaven ร้านอาหารชื่อดัง ที่การันตีเรื่องคุณภาพและรสชาติ ซึ่งโซนนี้น่าสนใจมากสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ในการสร้างแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังไว้ในที่เดียว จนกลายเป็นจุดเด่นได้

 

 

Michelin Guide Thai Street Food Deck ‘มุมอาหารไทยระดับมิชลินไกด์  มีดังนี้

  • Ten Suns ไร้เทียมทาน (เทนซัน) ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ สูตรเก่าแก่ร้อยกว่าปี เจ้าเก๋าแยกวิสุทธิ จุดเด่นความอร่อย คือ มีเนื้อให้เลือกหลายส่วนผ่านการเคี่ยวด้วยสูตรลับ
  • ข้าวมันไก่ประตูน้ำ สูตรโกอ่าง (Go-Ang Kaomunkai) ร้านเก่าแก่ อายุ 56 ปี ที่หลายคนเรียกติดปากว่าข้าวมันไก่ประตูน้ำ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีน ที่ต้องแวะมารับประทาน
  • สว่างบะหมี่ปู (Sawang Noodle) หนึ่งในร้านบะหมี่ระดับตำนานย่านหัวลำโพง ที่ปัจจุบันได้ขยายเปิดสาขามาที่ย่านประตูน้ำ ด้วยเอกลักษณ์สำคัญ คือ เส้นบะหมี่ และแผ่นเกี๊ยวสูตรเฉพาะ ที่ทำวันต่อวัน
  • ปาท่องโก๋เสวย (Pa Tong Go Savoey) มีชื่อเสียงมานานกว่า 40 ปี เริ่มจากร้านปาท่องโก๋เสวยสาขาเยาวราช ที่บรรพบุรุษซึ่งย้ายมาจากเมืองจีน ได้นำความรู้ที่ติดตัวมาเปิดร้านขายปาท่องโก๋อยู่ตรอกมะยม ย่านบางลำพู ซึ่งใกล้เขตพระราชฐาน ทำให้ข้าราชบริพารมาอุดหนุนกันมาก จึงเรียกกันติดปากว่าปาท่องโก๋
  • อองตอง (ข้าวซอย) Ongtong (Khaosoi) ร้านข้าวซอยต้นตำรับจากเชียงใหม่ เด่นด้วยน้ำข้าวซอยที่เครื่องแกงผัดจนหอม แล้วนำมาตุ๋นกับน่องไก่ หมูสันนอกหมักนุ่ม หรือเนื้อน่องลายให้เลือกตามชอบ
  • ลิ้มเหล่าโหงว (Lim Lao Ngow) ลิ้มเหล่าโหงว ตำนานบะหมี่ลูกชิ้นปลากระโดดได้ กว่า 80 ปี โดดเด่นด้วยลูกชิ้นปลารสชาติดีเป็นเอกลักษณ์
  • ไก่ทอดเจ๊กี ซอยโปโล Polo Fried Chicken (Soi Polo) ไก่ทอดสูตรเด็ดที่เปิดขายมานานกว่า 50 ปี กลายเป็นตำนานไก่ทอดเจ้าอร่อยอีกหนึ่งร้าน และยังมีอาหารอีสานหลากหลายเมนูให้ลิ้มลอง

Living House

Gastronomic & Café Destination ‘มุมร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังจากทั่วโลก’

  • หอยทอดชาวเล (Hoi Tod Chaw-Lae) ใช้วัตถุดิบสดใหม่ทุกวันทั้งหอยนางรมจากอ่างศิลาและหอยแมลงภู่จากปากน้ำ ทำให้ทุกเมนูที่เสิร์ฟได้ทั้งความสด สะอาด
  • ขาหมูเซนต์หลุยส์ (Kao Ka Moo St.Louis) ข้าวขาหมูในตำนาน ที่ความอร่อยอยู่ที่เนื้อหมูกับเนื้อหนังเด้ง นุ่มอร่อย
  • หมูปิ้งท่าน้ำนนท์ (Moo Ping Tanamnon) หมูปิ้งสูตรดั้งเดิม ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด
  • บ้านเบญจรงค์ ปาย (Bann Benjarong Pai) ร้านดังจากอำเภอปาย นำเสนออาหารไทยภาคกลาง ทุกเมนูผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน ไม่ใส่ผงชูรส ตกแต่งร้านแบบไทยร่วมสมัย สีสันสะดุดตา บรรยากาศผ่อนคลาย
  • คินนิคุ กิวด้ง (Kinniku Gyudon) เปิดบริการมาแล้วถึง 10 ปี เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน คือ ข้าวหน้าเนื้อ สูตรเฉพาะของร้านแบบโฮมเมด
  • เพรา (Prow) ร้านที่มีข้าวผัดกะเพราที่สร้างสรรค์ในแบบฉบับของตัวเอง โดยมีท็อปปิ้งให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามใจ
  • Cali – Mex (คาลิ-เม็กซ์) เกิดขึ้นจากนักธุรกิจชาวออสเตรเลียผู้หลงใหล อาหารเม็กซิกัน ที่อยากนำเสนอรสชาติแปลกใหม่ จัดจ้านในสไตล์แคลิฟอร์เนียที่ดีต่อสุขภาพ มาเผยแพร่ในภูมิภาคเอเชีย
  • เลิศทิพย์ (Lerdthip) ร้านเก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากว่า 60 ปี (เปิดเมื่อ พ.ศ.2500) แต่ก็ยังคงยืนหยัดทำอาหารด้วยสูตรลับของตระกูลที่สืบทอดมากว่าร้อยปี
  • Peppina (เปปปิน่า) ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์นาโปเลียนชื่อดัง ที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบในการปรุงอาหาร และสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ด้วยความตั้งใจทุกขั้นตอน
  • Teppei (เทปเป) อาหารแนวโอมากาเสะ ในราคาจับต้องได้
  • MONO+MONO (โมโน+โมโน) ไก่ทอดสไตล์อเมริกัน ที่ประยุกต์มาจากไก่ทอดเกาหลี และได้รับการยอมรับว่า เป็น 1 ใน 7 ไก่ทอดที่อร่อยที่สุดในโลก
  • All Coco (ออลโคโค่) มะพร้าวน้ำหอม จากสวนมะพร้าวที่ปลูกในแหล่งที่ดีที่สุดใน 4 จังหวัดของไทย เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
  • Louisa Coffee (หลุยซ่าคอฟฟี่) ร้านกาแฟพรีเมียมสัญชาติไต้หวัน ที่มีถึง 450 สาขา ในไต้หวัน
  • Wannjai Café (หวานใจ คาเฟ่) ร้านขนมหวานและเครื่องดื่มสไตล์ไทยฟิวชั่น

Living House

โซน Living House เปิดมาเพื่อให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทุกช่วงเวลา ของทุกคน พยายามทำให้เป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ที่ทุกคนสามารถมาเอ็นจอยได้ทุกเวลา ทำให้เป็นพื้นที่ที่มากกว่าแค่การมารับประทานอาหาร เพิ่มส่วนของไลฟ์สไตล์มากขึ้น แล้วก็มีบริการต่างๆเข้ามาตอบโจทย์

ส่วนของร้านอาหาร พยายามทำให้เป็นพื้นที่ที่ค่อยข้างชิล และเสริมด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะกับทุกวัย ด้วยความที่อยู่ใจกลางเมืองด้วย ใกล้โรงเรียน และมหาวิทยาลัยด้วย ก็ต้องจับกลุ่มที่เป็นวัยรุ่นด้วย โดยจัดให้มีกิจกรรม ทำโปรโมชั่น รวมถึงทำพื้นที่ ให้รู้สึกว่าเหมาะสมกับวัยรุ่นได้ด้วย

จะสังเกตได้ว่า ร้านอาหารนั้น เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เพียงแต่ผู้ที่ทำธุรกิจอาหารนั้น จะต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีดึงดูดลูกค้าที่แตกต่างกันไป เช่นการทำเป็นลักษณะแหล่งรวมร้านอาหารแบบนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี ที่จะสร้างจุดเด่นเพื่อดึงดูดลูกค้าได้เช่นกัน

 

เรื่องแนะนำ

แสนแซ่บ

แสนแซ่บ จากร้านอาหารอีสานเล็กๆ สู่ร้านอีสานหลัก 100 ล้าน

เพราะอะไร แสนแซ่บ ร้านอาหารอีสานที่เคยเริ่มจากกิจการเล็กๆ ในครอบครัว จึงสามารถเติบโตจนมีรายได้หลักร้อยล้านได้ เราจะพาไปล้วงลึกเคล็ดลับกัน

เสวย

ถอดเคล็ดลับ “เสวย” จากรุ่นสู่รุ่น รีแบรนด์ใหม่อย่างไร ให้ปัง!

” เสวย ” ร้านอาหารไทยที่เปิดมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1972 เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยที่เก่าแก่ร้านหนึ่ง และยังเป็นร้านอาหารที่ได้รับ ตราสัญลักษณ์ Thai Select จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งมอบให้แก่ร้านอาหารที่มีคุณภาพดีเยี่ยม และเป็นร้านที่ขายอาหารไทยต้นตำรับคุณภาพดี เป็นการบ่งชี้ว่าได้มาตรฐานอาหารไทย ตามแบบวิธีการปรุงอาหารไทย ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารไทย  ซึ่งร้านเสวย เปิดมายาวนานกว่าสี่สิบปี แบรนด์ที่เก่าแก่นี้ได้ถูกส่งไม้ต่อให้กับทายาทรุ่นที่ 2 อย่าง คุณตาม พีรพงศ์ ดาวพิเศษ ด้วยอายุของแบรนด์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าเดิมที่อายุเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงเวลาที่ต้องจับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และรีแบรนด์ใหม่ เสวย จะมีวิธีอย่างไร ที่ทำให้ร้านปังยิ่งขึ้น   “ เสวย ” จากรุ่นสู่รุ่น รีแบรนด์ใหม่อย่างไร ให้ปัง! คุณตาม พีรพงศ์ เล่าว่า ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้ว นับจากวันที่เริ่มเข้ามาบริหารร้านเสวย การรับช่วงต่อจากรุ่นคุณพ่อ ที่ร้านเป็นที่รู้จักแล้ว ไม่ได้หมายความว่าการเข้ามาบริหารในรุ่นที่ 2 นี้ เส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป “ช่วงแรกที่เข้ามาบริหาร เรียกว่าขาดทุนย่อยยับก็ว่าได้ พอของไม่สดผมทิ้งเลย ช่วงแรกร้านขาดทุนมากขึ้นเกือบ 3 เท่า […]

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ?

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ? แชร์มุมมองโดย คุณมิน เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ทุกวันนี้มีร้านกาแฟให้เราได้เลือกกินอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก็มีทั้งร้านที่เป็นรูปแบบคาเฟ่ ร้านกาแฟทั่วไป รวมถึงร้านแบบ Specialty ที่หลายคนให้คำจำกัดความร้านรูปแบบนี้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มี “ความพิเศษ” ที่ต่างออกไปจากร้านกาแฟแบบอื่น ๆ ว่าแต่มันพิเศษยังไงล่ะ ? ลองมาดูมุมมองต่อความเป็นร้านกาแฟ Specialty ของคุณมิน ธมลวรรณ เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ร้านกาแฟ Specialty ย่านลาดกระบังกัน! . นิยามของ Specialty . ในมุมมองของเรา Specialty Coffee คือ กาแฟที่พิเศษแตกต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไป เพราะเราให้ความใส่ใจ สนใจตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่การเลือกสายพันธ์ุกาแฟ ประเทศที่ปลูก การชง คาแรกเตอร์ของกาแฟแต่ละแบบ เอามาให้ผู้บริโภคเลือกมากกว่าร้านที่ขายกาแฟแบบปกติ เพราะคาแรกเตอร์แต่ละประเทศก็จะแตกต่างกัน เมื่อก่อนคนกินกาแฟ ก็อาจจะดูจากเรื่องความขม ให้ความกระปรี้กระเปร่า แต่เดี๋ยวนี้คนให้ความสนใจกับรสชาติ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.