ปลายปีแบบนี้หลายคนเริ่มหาสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศบ้าง ต่างประเทศบ้าง แต่ถ้าประเทศเพื่อนบ้านไม่ไกลเรานัก หลายคนคงนึกถึง ประเทศเวียดนาม ที่ไปง่ายแสนง่าย ที่เที่ยวเยอะ อีกทั้งอากาศปลายปีก็เริ่มเย็นขึ้นแล้ว บวกกับธรรมชาติที่ที่สวยงามของประเทศนี้ ทำให้อยากที่จะเยือน รวมถึงอาหารการกินของประเทศนี้ก็อุดมสมบูรณ์ไม่แพ้เมืองไทยเลยทีเดียว ร้านกาแฟชิคๆ ร้านอาหารเก๋ๆ มีเยอะแยะมากมายเกลื่อนตา ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเรา แล้วร้านอาหารในเวียดนาม มีเคล็ดลับอะไร ในการเปิดร้านให้เตะตา ติดใจ นักเดินทางอย่างเรา มาดู 5 ทริค เปิดร้านให้โดนใจนักท่องเที่ยว จากร้าน Madame Hanh (End of the Beach)
5 ทริค เปิดร้านให้โดนใจนักท่องเที่ยว ฉบับ Madame Hanh
เมื่อพูดถึงประเทศเวียดนาม นอกจากเมืองหลวงอย่างฮานอย และเมืองเศรษฐกิจ โฮจิมินห์ซิตี้ ที่หลายคนนึกถึงแล้ว ยังมีเมืองดานัง อีกหนึ่งที่ ที่น่าสนใจไม่น้อย วันนี้เราพามาเช็คอินกันที่ เมืองดานัง ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลที่มีชายหาดสวยงาม บรรยากาศดีมากๆ และเราก็ได้เจอกับร้านแรก ชื่อว่าร้าน Madame Hanh หรือ End of the Beach เป็นร้านที่เปิดมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ตั้งอยู่สุดชายหาดทางทิศเหนือ และยังได้รับการรีวิวจากคนไทย และชาวต่างชาติค่อนข้างดีทีเดียว เช่น
- นักท่องเที่ยวชาวจีนรีวิวว่า เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในดานัง
- นักท่องเที่ยวชาวแคนาดา รีวิวว่า อาหารและการบริการระดับโลก
- ร้านอาหารน่ารัก วิวสวย พนักงานบริการยอดเยี่ยม
แต่!! “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” อีกอย่างก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าร้าน Madame Hanh มีเทคนิคดีๆอะไรที่สามารถ เปิดร้านให้โดนใจนักท่องเที่ยว เผื่อผู้ประกอบร้านอาหารในประเทศไทย จะสามารถหยิบไอเดียไปใช้ได้
1. ทำเลทอง
ร้านอาหารริมทะเลที่ดานังถือได้ว่ามีอยู่มากมายหลายร้าน แม้ว่าร้าน Madame Hanh จะไม่ได้ติดริมหาด จนสามารถนั่งทานอาหารพร้อมสัมผัสคลื่นและทรายไปพร้อมๆกันได้ แต่ทางร้านก็มีจุดได้เปรียบ คือ สถานที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง โปร่ง สบาย รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก ติดถนนใหญ่ เดินทางไปมาได้ค่อนข้างสะดวก มีที่จอดรถ อีกทั้งยังมองเห็นวิวทะเลอีกด้วย
นอกจากนี้ การตกแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศริมทะเล ด้วยโทนการแต่งร้านสีขาวและสีฟ้าน้ำทะเล ยามเย็นมีการประดับตกแต่งด้วยไฟเหลืองนวล ยิ่งทำให้ร้าน Madame Hanh มีความโรแมนติกมากขึ้น
2. บริการด้วยใจ มีชัยไปกว่าครึ่ง
ก้าวแรกที่เข้าร้าน ก็เอาใจไปเลย!! ร้านอาหารทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่จะต้องแข่งกันที่เรื่องของรสชาติอาหารเท่านั้น แต่การที่ลูกค้าบางคนเลือกที่จะกลับไปทานร้านของคุณซ้ำๆ เหตุผลหนึ่งก็มาจากการบริการที่ดีจากพนักงานของคุณเอง อย่างเช่น ร้าน Madame Hanh แห่งนี้ เมื่อไปถึงที่ร้าน จะมีพนักงานมากล่าวคำทักทาย ต้อนรับ พร้อมแนะนำร้านเบื้องต้นก่อน ว่าร้านมีโซนไหนบ้าง แต่ละโซนดีอย่างไร ลูกค้าสามารถเลือกโซนได้ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า ลูกค้าอย่างเราเดินมาดูร้านเฉยๆ หรือตัดสินใจจะทานที่ร้านแล้ว
เมื่อเราตัดสินใจเลือกที่นั่ง พนักงานจะพาเราไปที่โต๊ะ จากนั้นมีการพูดคุยบอกกล่าวให้ข้อมูลเป็นระยะๆ โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด เช่น เมื่อเราไปถึงโซนชั้นสองที่เราเลือก (เพราะว่าน้องพนักงานแนะนำว่าเห็นวิวทะเล) ที่นั่งเป็นโต๊ะ 4 ที่ พนักงานจะให้คอยสักครู่เพื่อทำการจัดโต๊ะเป็น 2 ที่นั่ง (เพราะแอดไปแค่ 2 คน) ระหว่างรอมีการเสิร์ฟ Welcome Drink ทันที แม้ว่าลูกค้าจะยังไม่ถึงที่โต๊ะก็ตาม พูดคุยเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับเพื่อน แต่ไม่ได้สนิทสนมจนเกินไป ดูแลเราดีเหมือนลูกค้าท่านอื่นๆ ไม่ได้บริการเหมือนเป็นหุ่นยนต์ ยิ้มแย้มแจ่มใส แนะนำเมนูได้อย่างคล่องแคล่ว
3. เมนูน้อย แต่ขายได้กำไร!!
บางคนอาจจะคุ้นชินกับการไปทานอาหารที่มีเมนูหลากหลายให้เลือก ร้านอาหารในประเทศไทยหลายๆร้าน มีเมนูเป็นร้อยๆอย่าง ให้ลูกค้าเลือก แต่ที่นี่มีรายการอาหารให้เลือกอยู่ไม่ถึง 10 อย่างเท่านั้น ในบางประเทศการมีเมนูอาหารเพียงแค่ไม่กี่อย่าง ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ร้านที่มีเมนูมากเกินไป ก็นำมาซึ่งต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ไม่เห็นกำไร ร้านเจ๊ง มีอยู่มากมายหลายร้าน
ดังนั้น ทางร้านควรมีการเก็บสถิติ ดึงข้อมูลหลังบ้านมาใช้ จัดหมวดหมู่เมนูขายดี กำไรต่ำ เมนูขายไม่ดี กำไรสูง ตัดเมนูที่ขายไม่ออกต้นทุนสูงทิ้งไป ชูเมนูขายดี อย่าให้ทุนของคุณไปจมอยู่กับบางเมนูที่อาจจะไม่ได้มีลูกค้าสั่งเลย
4. ใส่ใจกับวัตถุดิบ
ผู้ประกอบการร้านอาหารทราบดีอยู่แล้วว่า การทำร้านอาหาร สินค้าเราคือขายอาหาร ดังนั้นอย่างแรกเลย ความอร่อยต้องมาก่อน ลูกค้ามากินแล้วอร่อย และราคาเหมาะสม
ร้าน Madame Hanh กับเมนูที่มีไม่ถึง 10 รายการ ทดลองสั่งไปแค่ 3 อย่าง กับเครื่องดื่มอีก 2 แก้ว แต่รู้สึกได้ว่าความอร่อยอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่าเงิน เนื่องจากความอร่อยนั้นมาจากวัตถุดิบที่ดี การให้ความใส่ใจกับการเลือกวัตถุดิบ เลือกของสด คุณภาพดีในการปรุงอาหารมาเสิร์ฟ ลูกค้ารู้ว่าวัตถุดิบที่ใช้กับราคาอาหารมันคุ้มแล้วที่ลูกค้ายอมเสียเงินไปทาน เพราะว่าวัตถุดิบ คือส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้รสชาติอาหารอร่อย วัตถุดิบเป็นตัวแปรสำคัญของรสชาติอาหาร จะต้องเลือกอย่างถูกต้อง และเลือกอย่างดีที่สุด
5. กินเล่น กินจริง
ทริคสุดท้ายที่จะ เปิดร้านให้โดนใจนักท่องเที่ยว ติดใจไม่รู้ลืมคือ การสอดแทรกความรู้ทางวัฒนธรรมการกินแบบพื้นเมืองได้อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง ที่ประทับใจมากๆ คือ เมื่อเสิร์ฟอาหาร พนักงานจะมีการสาธิตวิธีการกินเมี่ยงญวนที่ถูกต้องตามแบบฉบับคนเวียดนาม ทานไปเพลินๆ ทำให้เห็นว่า มีความใส่ใจไม่ใช่เพียงแค่มาเสิร์ฟอาหารแล้วก็เดินจากไป แต่ยังแฝงการให้ความรู้ทางวัฒนธรรมการกินแบบพื้นเมืองกับนักท่องเที่ยวด้วย
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ นี้ที่ทางร้าน Madame Hanh ให้ความใส่ใจ ถือได้ว่าเป็นจุดขายของทางร้านอย่างหนึ่ง แม้กระทั่งเราคนเอเชียเหมือนกัน ยังประทับใจ เพื่อนๆ ผู้ประกอบการลองนำทริคต่างๆเหล่านี้ ไปปรับใช้กับร้านของตัวเองได้ตามความเหมาะสม
>> รอติดตามบทความต่อๆไป ได้ใน หนาวนี้ที่เวียดนาม เดอะซีรีส์ ตอนต่อไป
การทำร้านอาหาร ยังมีอีกหลายเรื่องราว หลายขั้นตอนที่เจ้าของร้านควรรู้ ดังนั้น ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง กับงานใหญ่ส่งท้ายปี Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect งานครบรอบ 3 ปีของ Amarin Academy กับการรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 150 ร้าน พร้อมโอกาสการสร้าง Connection กับร้านชื่อดังต่างๆมากมาย อีกทั้งยังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแขนงที่จะมาอัพเดทเทรนด์ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า / งานดีไซน์ร้านสุดเจ๋ง / กลยุทธ์เรียกลูกค้าเข้าร้านสไตส์ Influencer ชื่อดัง ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมพูดคุยกับเหล่ากูรูและเจ้าของร้านผู้มากประสบการณ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งงานจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562
สมัครเข้าร่วมงาน Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect คลิก!!