7 เทรนด์อาหาร 2019 ร้านอาหารต้องตามให้ทัน! - Amarin Academy

7 เทรนด์อาหาร 2019 ร้านอาหารต้องตามให้ทัน!

7 เทรนด์อาหาร 2019 ร้านอาหารต้องตามให้ทัน!

เริ่มต้นปี 2019 กันแล้ว ร้านอาหารไหนอยากลองปรับร้านรับกระแสความต้องการของผู้บริโภค ห้ามพลาดบทความนี้ เพราะเราได้รวบรวมเทรนด์อาหารที่คาดว่าจะมาแรงในปีนี้มาให้แล้ว! โดยภาพรวมของ เทรนด์อาหาร 2019 ยังคงคล้ายๆ กับปี 2018 นั่นคือ เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และต้องใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

1.เมนูที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากท้องถิ่นนั้นๆ

เทรนด์อาหารที่มาแรงเป็นอันดับต้นๆ คือ เมนูที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบท้องถิ่นนั้นๆ เช่น หากร้านอาหารของคุณตั้งอยู่ในต่างจังหวัด อาจนำของดีประจำจังหวัดนั้นๆ หรือวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้เฉพาะพื้นที่นี้เท่านั้น มาชูเป็นจุดเด่น เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าอยากเข้ามาลิ้มลองเมนูของเรา โดยอาจเลือกปรุงเป็นอาหารพื้นเมือง หรือจะประยุกต์ให้เข้ากับรสชาติที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยก็ได้ ตามคอนเซ็ปต์ของร้านอาหารเรา

2.เมนูง่ายๆ แต่ได้คุณประโยชน์สูง

ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาเลือกรับประทานอาหารง่ายๆ แต่ได้คุณประโยชน์สูงมากยิ่งขึ้น เช่น เมนูที่ปรุงจากผักสดที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เมล็ดธัญพืชหรือว่าวัตถุดิบที่อัดแน่นไปด้วยโปรตีน ดังนั้นร้านอาหารไหนอยากเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ ลองหันมาเพิ่มเมนูง่ายๆ ที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์มดู โดยอาจทำ Story Telling บอกที่ไปที่มา คุณประโยชน์ หรือความพิเศษของวัตถุดิบเหล่านั้น จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าอยากลิ้มลองเมนูนั้นมากขึ้น

3.เมนูที่ปรุงแล้วมีของเสียเหลือน้อยที่สุด

เศษเนื้อ เศษผักที่เกิดจากการตัดแต่ง หัวปลา หางปลา ก้างปลา หนังปลา ฯลฯ คือส่วนเกินที่ร้านอาหารส่วนใหญ่มักทิ้งลงถังขยะ แต่รู้ไหมว่าเราสามารถเพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบเหล่านั้นได้ โดยการนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ เช่น บางร้านนำหัวปลา และส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้นำมาเสิร์ฟ มาเคี่ยวเพื่อทำเป็นน้ำซุป หรือนำมาทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ เสิร์ฟให้ลูกค้าระหว่างรออาหารจานหลัก หรือเนื้อที่ไม่ได้ขนาดอาจนำมาปรุงเป็นเมนูเนื้อบดหรือเบอร์เกอร์ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบแล้ว ยังช่วยลดปริมาณขยะ รักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นข้อสำคัญที่จะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค

โดยร้านอาหารสามารถนำวิธีคิดเหล่านั้น มาสร้างเป็นเรื่องราว เล่าให้ลูกค้าฟังว่า ปัญหาขยะอาหารรุนแรงมากเพียงใด และอุดมการณ์ของร้านคือต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นทุกเมนูจะปรุงโดยมีของเหลือทิ้งให้น้อยที่สุด ซึ่งการที่คุณเข้ามาอุดหนุนร้านของเรา ก็เท่ากับว่าคุณได้มีส่วนช่วยรักษาโลกใบนี้แล้ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเห็นคุณค่าในอาหารที่เขากำลังรับประทานมากยิ่งขึ้น

4.เน้นเมนูผัก รักสุขภาพ

ทุกวันนี้มีผู้บริโภคที่กินมังสวิรัติหรือวีแกนมากขึ้น แม้อาจยังไม่ได้เป็นประชากรส่วนใหญ่ แต่ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้ร้านอาหารมองข้ามคนกลุ่มนี้ไม่ได้ ดังนั้นร้านอาหารใดที่ไม่อยากพลาดโอกาสสร้างรายได้จากคนกลุ่มนี้ อาจต้องเพิ่มอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนเข้าไปในเมนูด้วย เช่น ทำซูชิเต้าหู้ เบอร์เกอร์เห็ด เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มคนเหล่านี้

5.เมนูที่มีที่ไปที่มา

ทุกวันนี้การรับประทานอาหารของผู้บริโภค ไม่ใช่เพื่อความอิ่มอร่อยเท่านั้น แต่ยังต้องการรู้ว่าสิ่งที่เขารับประทาน มีที่ไปที่มาอย่างไร เช่น ผักมาจากฟาร์มไหน ปลอดสารพิษหรือเปล่า เนื้อสัตว์ฉีดสารเร่งโตไหม เป็นต้น อย่างที่เคยเห็นผลิตภัณฑ์มากมายที่ใช้วิธีการขายสินค้าด้วยการสร้างเรื่องราว เช่น ไข่ไก่อารมณ์ดี หรือน้ำนมวัวที่มาจากวัวที่กินหญ้าสดสีเขียว ซึ่งรสชาติจะเข้มข้น หอมมันมากกว่า เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ร้านอาหารก็สามารถนำมาเล่าให้ลูกค้าฟังว่า ร้านของคุณคัดสรรวัตถุดิบอย่างไร เช่น เมนูนี้ปรุงจากผักที่ส่งตรงจากฟาร์มผักออร์แกนิค ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย โดยฟาร์มอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูง อากาศเย็นตลอดทั้งปี ฉะนั้นผักจึงสดใหม่ กรอบและหวานกว่าผักจากฟาร์มอื่นๆ เป็นต้น แน่นอนว่าวัตถุดิบเหล่านี้ย่อมมีราคาสูงกว่าผักที่หาซื้อได้ตามตลาด แต่มั่นใจได้เลยว่าลูกค้าย่อมเห็นคุณค่าในเมนูคุณมากกว่า และยอมจ่ายแพงกว่าแน่นอน

6.วัตถุดิบมาจากท้องถิ่น ได้ช่วยเหลือสังคม

ต่อยอดมาจากข้อที่แล้ว นอกจากลูกค้าจะอยากรู้ว่าวัตถุดิบที่เขารับประทานมีที่ไปที่มาจากที่ไหนแล้ว ยังอยากรู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่าย สร้างประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหนด้วย ฉะนั้นเมนูไหนระบุว่า วัตถุดิบส่งตรงมาจากชุมชน หรือมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ลูกค้ายินดีจ่ายให้คุณมากขึ้นแน่นอน

7.ชูรสชาติวัตถุดิบหลัก

เทรนด์สุดท้ายที่เชฟส่วนใหญ่ลงความเห็นคือ Back to Basic เมนูที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมสั่งมากขึ้น คือเมนูที่ง่ายๆ ใช้เครื่องปรุงรสน้อยๆ เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เช่น สเต๊กเนื้อ อาจปรุงแค่เกลือและพริกไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติของเนื้อเต็มๆ คำ เป็นต้น ฉะนั้นแทนที่เชฟจะคิดค้นเมนูแปลกพิสดาร อาจลองนำเมนูง่ายๆ มาเสนอขายลูกค้าดูบ้าง เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ผู้บริโภคในยุคนี้

7 เทรนด์ที่เรานำมาเสนอนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อนำไปปรับปรุงเมนู รับปี 2019 นี้นะครับ!

*เทรนด์ที่เรานำมาเผยแพร่นี้ มาจากผลสำรวจที่ได้จากการสอบถามเชฟที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์การทำอาหารแห่งอเมริกา (American Culinary Federation)

เรื่องแนะนำ

มิชลินสตาร์

ประกาศผลร้านอาหาร มิชลินสตาร์ พร้อมเปิดตัว มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา ปี 2020

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคู่มือมิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา ประจำปี 2020 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้มีการประกาศร้านอาหารที่ได้รับรางวัล Michelin Star Revelation ( มิชลินสตาร์ ) อีกด้วย โดยในปีนี้ร้านที่ได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาว มีจำนวนทั้งหมด 24 ร้าน (เป็นร้านเดิม 20 ร้าน + ร้านใหม่ 4 ร้าน) และร้านที่ได้รับรางวัลมิชลิน 2 ดาว มีทั้งหมด 5 ร้าน (ร้านเดิม 3 ร้าน + ร้านใหม่ 2 ร้าน) มีรายชื่อร้านอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ   ร้านอาหาร มิชลินสตาร์ Michelin Star Revelation 2020 […]

แอปพลิเคชัน Food Delivery

รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่องทางช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19

ณ ตอนนี้ ที่หลายคนกำลังอยู่ในช่วง Work From Home และมีการออกจากบ้านกันน้อยลง ทำให้บริการ Food Delivery เป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ จนเรียกได้ว่า แอปพลิเคชัน Food Delivery เป็นเหมือนพนักงานร้านอาหารประจำตัวของผู้บริโภคหลายๆ คนไปแล้ว ด้วยการอำนวยความสะดวก การนำเสนอเมนูอาหารจากร้านที่หลากหลาย โปรโมชั่นต่างๆ เหล่านี้ทำให้เป็นตัวช่วยที่ดี ที่ช่วยให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านได้  ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน Food Delivery มากมายเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค โดยแต่ละแอปพลิเคชัน จะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่ค่าบริการ ร้านอาหารที่เข้าร่วม และพื้นที่ให้บริการ วันนี้เราจึงนำเสนอแอปพลิเคชันFood Delivery ยอดนิยม ที่ผู้ประกอบการควรรู้จัก และนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณในช่วงวิกฤตแบบนี้มาให้ดูกันค่ะ   รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19 Line Man Line Man เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร เรียกแท็กซี่ ส่งพัสดุ เมสเซนเจอร์ และซื้อสินค้า ในส่วนของบริการส่งอาหารนั้น LINE […]

ขยะพลาสติก

ส่องแบรนด์ใหญ่ เดินหน้าลด ขยะพลาสติก แบบใช้แล้วทิ้ง Single-use plastics

วิกฤตปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก กำลังส่งผลร้ายอย่างมากมายกับโลกของเรา เห็นได้จากข่าวต่างๆที่ผ่านมา เปิดปัญหากับสัตว์ต่างๆ และธรรมชาติอย่างร้ายแรง ทำให้ที่ผ่านมาหลายหน่วยงาน หลายองค์กรทั่วโลก เริ่มหันมาให้ความสำคัญ และตื่นตัวกับปัญหานี้มากขึ้น รวมถึงแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารทั่วโลก ซึ่งเป็นธุรกิจที่นับว่ามีปริมาณการใช้ ขยะพลาสติก แบบใช้แล้วทิ้ง (Single-use plastics) เป็นจำนวนมาก ก็เริ่มรณรงค์และหาทางออกในเรื่องนี้  เรามาดูกันว่ามีแบรนด์ใดบ้าง   แบรนด์ใหญ่ เดินหน้าลด ขยะพลาสติก แบบใช้แล้วทิ้ง Starbucks แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Starbucks ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประกาศเลิกใช้หลอดพลาสติกใช้แล้วแบบ Single Use ในทุกสาขาทั่วโลกภายในปี 2563 ในทุกสาขาทั่วโลกภายในปี 2563 ของ Starbucks เพื่อให้แบรนด์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากใช้หลอดที่ทำจากวัสดุดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างกระดาษ หรือพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทดแทนแล้ว ในปัจจุบัน Starbucks ยังออกแบบฝาปิดแก้วสำหรับเครื่องดื่มเย็นบางชนิดให้สามารถยกดื่มได้ง่ายแบบไม่ต้องใช้หลอด โดยเริ่มใช้ในหลายๆ สาขาทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งหากสามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้สำเร็จ Starbucks จะสามารถกำจัดหลอดพลาสติกไปได้กว่า 1,000 ล้านชิ้น/ปี เลยทีเดียว *ข้อมูลจาก Ocean Conservancy องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ดูแลปกป้องมหาสมุทรพบว่า ตลอด 30 […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.