เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ เจ้าของธุรกิจต้องตามให้ทัน

เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่

เจ้าของธุรกิจต้องตามให้ทัน

โลกทุกวันนี้หมุนเร็วขึ้นเช่นเดียวกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อสิบปีก่อนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z (เกิดในช่วงปีค.ศ. 1995 – 2014) พวกเขากำลังอยู่ในวัยเริ่มต้นทำงาน ที่แม้ตอนนี้จะยังมีจำนวนไม่มาก แต่มีอำนาจการซื้อสูง และพฤติกรรมการบริโภคที่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่เจ้าของธุรกิจต่างให้ความสำคัญ

ไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้สอดรับกับโลกปัจจุบันได้ดีเพราะเติบโตมาพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีแทบทุกคนมี
สมาร์ทโฟน เป็นของตัวเอง พวกเขาจึงรู้สึกสบายใจที่มีอุปกรณ์ไอที และอินเตอร์เน็ตรอบตัวตลอดเวลา จากรายงานสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2560 พบว่า โดยเฉพาะเฉลี่ยคน Gen Z  ใช้เวลาออนไลน์นานเฉลี่ยวันละ  5 ชั่วโมง 48 นาทีต่อวัน ช่วงจันทร์ – ศุกร์ และมากขึ้นเป็น 7 ชั่วโมง 12 นาทีต่อวัน ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์

คน Gen Z สามารถเข้าถึงข้อมูลใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นด้วยตัวเอง ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ โดยยึดจากความพึงพอใจส่วนบุคคลเป็นหลัก แทนที่จะสนใจชื่อเสียงของแบรนด์เหมือนก่อน ขณะเดียวกันก็พร้อมจะใช้เงินอย่างเต็มที่กับสิ่งที่พอใจ

ฉะนั้นหากต้องการทำตลาดกับคนกลุ่มนี้ให้สำเร็จ เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจแนวโน้มผู้บริโภค และดึงเอาเทคโนโลยีออนไลน์มาใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา

1. อยากรู้อะไรเสิร์ชได้จากมือถือ

คน Gen Z มากกว่าครึ่งหนึ่งชอบซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์และมีจำนวนมากถึง 4 ใน 5 ที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลสินค้าชิ้นนั้นๆ จากอินเทอร์เน็ต Search Engine ต่าง ๆ ในการหาข้อมูล ไม่ว่าอยากรู้อะไรแค่หยิบ
สมาร์ทโฟนมาเปิดแอพหรือเข้าผ่าน Google แล้วใส่คำหรือเรื่องที่ต้องการรู้ข้อมูลนับร้อยเรื่องก็ปรากฎตรงหน้าภายใน 1-2 นาที และสามารถเข้าถึงคำตอบได้อย่างอิสระโดยไม่จำกัดเวลาและพื้นที่

ผู้บริโภคยุคใหม่ยังชอบความสะดวกสบาย  ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญที่สุดคือต้องรวดเร็ว หากมีข้อมูลของสินค้าและบริการใดที่ครบถ้วน สั้นกระชับ ไม่ชอบอ่านข้อมูลหลายหน้า และสามารถพาไปยังหน้าร้านได้ทันทีจากการเสิร์ช Google เพียงครั้งเดียว ยิ่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น

ใน Google My Business มีระบบหลังบ้าน ที่เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากการเสิร์ชเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาด และวางแผนธุรกิจได้แบบง่ายๆ  โดยใช้ Navigation Location ที่รวบรวมข้อมูลการค้นหาร้านไว้ทั้งหมด โดยวิเคราะห์แยกเป็นพื้นที่ (ตามรหัสไปรษณีย์) ที่มีคนค้นหาและให้นำทางมาที่ร้านมากที่สุด

ผู้ประกอบการจึงได้ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายหลักอาศัยอยู่พื้นที่ใด แล้วนำข้อมูลนั้นมาทำการตลาดเจาะลึกไปยังคนกลุ่มนั้น หรืออาจพบเจอพื้นที่ใหม่เพื่อขยายตลาดก็ทำได้อย่างง่ายดาย

2. เลือกจากความเหมาะสมเฉพาะบุคคล

แม้คน Gen Z จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าแสดงออก มีความเป็นตัวตนชัดเจน  ดังนั้นการเลือกใช้สินค้าและบริการจึงเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง มากกว่าชื่อเสียงแบรนด์ หรือ Royalty เป็นสำคัญ  คน Gen Z จึงใช้เวลากับการหาข้อมูลในเว็บ Search Engine ค่อนข้างนานก่อนตัดสินใจซื้อ Keyword ที่ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลสำคัญที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปวางแผนโปรโมทสินค้าบนช่องทางออนไลน์และหน้าร้านให้โดนใจได้

ระบบหลังบ้านของ Google My Business มีข้อมูล Search Keywords ที่วิเคราะห์และจัดอันดับชนิดคำค้นหาที่คนเข้าใช้นิยมค้นหาร้านของเรา ทำให้เจ้าของธุรกิจนำมาตั้งเป็นสินค้า หรือนำเมนูอาหารมาทำแคมเปญ สินค้าแนะนำ หรือสินค้ายอดนิยมบน Google และโซเชียลมีเดียได้ รวมถึงเลือกเป็นคำโฆษณาบนสื่อออนไลน์ โบรชัวร์และสื่อประชาสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ตรงใจลูกค้าด้วย

3. ชอบจะทำด้วยตัวเอง

แม้คนรุ่นใหม่จะชอบความสะดวกสบาย ขณะเดียวกันเขาก็ชอบหาข้อมูล จัดการเรื่องต่าง ๆ หรือเลือกสินค้าด้วยตัวเองมากกว่าการดูแค่โฆษณา ฉะนั้นโฆษณาแนวยัดเยียดสินค้ากำลังกลายเป็นเรื่องล้าสมัย แต่การตลาดที่ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมจะได้การตอบรับดีกว่า

แม้ลูกค้าจะเสิร์ชหาข้อมูลจากเว็บไซต์ แต่การไปเห็นสินค้าจริงที่ร้าน ได้ฟังเรื่องราวที่มาที่ไปของสินค้า ได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ จะสังเกตได้ว่าคนยุคใหม่สนุกกับการใช้แผนที่เพื่อไปยังเป้าหมายต่าง ๆ ด้วยตัวเอง มากกว่าจะใช้วิธีโทรถามทางแบบเดิม ๆ

ดังนั้น การอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามาถึงร้านได้รวดเร็ว หรือจัด traffic ในร้านให้ดีเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งข้อมูล Customer Actions ในระบบหลังบ้านของ Google My Business สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ โดยสามารถบอกให้เจ้าของธุรกิจทราบว่า ลูกค้าคลิกเข้าชมเว็บไซต์แล้วกี่ครั้ง โทรหาร้านแล้วกี่หน หรือขอเส้นทางจาก Google Maps มาร้านกี่ครั้ง จากที่ไหน

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ประกอบการเตรียมตัวได้เป็นอย่างดีทั้งการทำป้ายบอกทาง สถานที่จอดรถ การจัด Traffic และบริการต่าง ๆ ของร้าน เพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

4.เชื่อข้อมูลจากผู้ใช้จริง

อิทธิพลจาก Influencer ในโลกโซเชียล และรีวิวสินค้าบริการจากบล็อกเกอร์ต่าง ๆ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคยุคออนไลน์อย่างมาก ลูกค้ากลุ่ม Gen Z ส่วนใหญ่หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเลือกซื้อของตามรีวิวจากคนที่ใช้จริงมากกว่าโฆษณาตามสื่อประชาสัมพันธ์ทั่วไป

ยิ่งสินค้าชิ้นนั้นมีการพูดถึงหรือรีวิวในโซเชียลมากเท่าไร ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการจึงควรหาวิธีเชิญชวนให้ลูกค้าที่ซื้อของไปกลับมารีวิวสินค้าให้ เพราะรีวิวดีๆ 1 ชิ้น มีค่าเทียบเท่ากับคำบอกต่อนับหมื่นคน วิธีการง่าย ๆ ที่จะขอให้ลูกค้าเขียนรีวิวให้ คือ การหาของขวัญเล็กน้อยมอบตอบแทน อาจเป็นบัตรส่วนลดสินค้า หรือสินค้าพรีเมี่ยมสุดพิเศษ ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องเลือกเวลาให้เหมาะสม นั่นคือหลังจากซื้อสินค้าไป 1 -2 วัน เพราะเมื่อใช้แล้วดีจริง ลูกค้ามักอยากบอกต่อให้คนอื่นได้รับรู้เช่นกัน

ระบบหลังบ้านใน Google My Business มีฟังก์ชั่น Customer Survey วิเคราะห์รีวิวจากคะแนนที่ลูกค้าให้ เพื่อเป็นเครื่องมือให้ร้านนำไปพัฒนาสินค้าบริการ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ร้านให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

แม้เทรนด์ของผู้บริโภคจะปรับเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน หากเจ้าของธุรกิจหมั่นเรียนรู้ และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ก็สามารถนำพาธุรกิจไปสู่บันไดความสำเร็จได้ โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเรื่องยากๆ เพียงแค่ปักหมุดร้านของตัวเองใน Google My Business เพื่อให้ลูกค้าเจอข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณใน Search Engine แบบง่ายๆ และสามารถเดินทางมายังหน้าร้านของคุณได้ทันทีที่ต้องการ

วิธีการนี้ถือเป็นการโปรโมทร้านออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว และได้ผลที่สุดในยุคนี้ แน่นอนว่า เมื่อลูกค้ามองเห็นร้านค้าได้ตลอดเวลา ย่อมนำพาความร่ำรวยมาสู่ธุรกิจแน่นอน

สำหรับเจ้าของธุรกิจร้านค้า หรือบริหารใดต้องการปักหมุดใน Google My Business สามารถติดต่อที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาทั่วประเทศ  หรือ SCB Business Center ทั้ง 6 สาขา หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมคลิก http://bit.ly/2zY0W0u