ถอดบทเรียน MK อดีตร้านห้องแถว ยอดขาย 16,000 ล้าน - Amarin Academy

ถอดบทเรียน MK อดีตร้านห้องแถว ยอดขาย 16,000 ล้าน

ถอดบทเรียน MK อดีตร้านห้องแถว ยอดขาย 16,000 ล้าน

“กินอะไร กินอะไร กินอะไร ไปกิน MK” เชื่อว่าแทบไม่มีใครไม่เคยได้ยินเพลงนี้ เพราะในยุคหนึ่ง ถือเป็นเพลงยอดฮิตติดหูที่ใครๆ ก็ร้องได้ ปัจจุบัน MK สุกี้เปิดมานานกว่า 30 ปี มี 427 สาขาทั่วประเทศไทย ทั้งยังมีสาขาในประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม และลาวอีกด้วย ซึ่งในปี 2560 MK มีรายได้รวมกว่า 16,000 บาท! เพราะอะไร ร้านอาหารง่ายๆ อย่างสุกี้ ถึงครองใจคนทั่วประเทศไทยมาได้นานขนาดนี้ แถมยังทำรายได้แตะหลักหมื่นล้าน! เราจะมา ถอดบทเรียน MK ให้ฟัง

1.กล้าคว้าโอกาส

MK เริ่มต้นธุรกิจในปี 2505 โดยคุณป้าทองคำ เมฆโต จากร้านอาหารเล็กๆ เพียง 1 คูหาที่สยามสแควร์ ซึ่งไม่ได้ขายแค่สุกี้เท่านั้น แต่ยังขายอาหารนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่ เนื้อตุ๋น ผัดไท ฯลฯ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก จนในปี 2527 คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ เครือเซ็นทรัลกรุ๊ปได้ชวนให้เปิดร้านอาหารในเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่ง MK ก็ตอบรับ

จุดนี้เป็นจุดเปลี่ยนของ MK ก็ว่าได้ เพราะถ้าตอนนั้นไม่รับข้อเสนอ หรือกลัวว่าถ้าไปเปิดในห้างฯ (ซึ่งตอนนั้นถือว่าใหม่มากสำหรับเมืองไทย) แล้วจะบริหารจัดการไม่ได้ กลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะไม่มี MK ในทุกวันนี้

แต่ความกล้าคว้าโอกาสในที่นี้ ก็ต้องประเมินศักยภาพตัวเองด้วยเช่นกัน ว่าพร้อมที่จะเติบโตแล้วหรือยัง

เคยเห็นไหม ร้านอาหารบางร้านที่เปิดสาขาแรกขายดีมาก คนต่อแถวเพียบ เลยตัดสินใจขยายสาขาหรือขยายแฟรนไชส์อย่างรวดเร็วเพราะคิดว่า “น้ำขึ้นให้รีบตัก” ไม่ขยายตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปขยายตอนไหน

สุดท้าย…เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะศักยภาพของธุรกิจยังไปไม่ถึง การบริหารจัดการยังไม่ดีพอ เทรนด์พนักงานไม่ทัน ฯลฯ

ดังนั้นความกล้า ต้องมาคู่กับความพร้อมด้วย ถ้าประเมินแล้วธุรกิจของคุณดีพอที่จะเติบโตได้ ถ้ามีโอกาสดีๆ เข้ามา ทำไมคุณไม่ลองคว้ามันดูล่ะ?

2.สร้างฐานลูกค้าประจำ “คุณภาพได้มาตรฐาน บริการไม่มีตก”

คุณภาพอาหาร ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอาหารยั่งยืน ข้อนี้เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ร้านอาหารหลายๆ รายเลือกทำโปรโมชั่นที่หวือหวา ลด แลก แจก แถมสารพัด เพื่อดึงดูดคนเข้าร้าน

แต่ลองสังเกตดูว่า MK แทบไม่เคยออกโปรโมชั่นลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าเลย แต่ก็ยังมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการไม่ขาดสาย

ขณะเดียวกันตลอด 30 ปีที่ผ่านมา MK แทบไม่มีข่าวเรื่องสารปนเปื้อนในอาหารที่รุนแรงเลย และยังเป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของอาหาร (Food Safety) มีการนำมาตรฐานด้านการผลิตอาหารระดับสากลมาใช้ควบคุมการทำงาน เช่น GMP และ HACCP เป็นต้น*

อีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องบริการ อย่าลืมว่าร้านอาหารไม่ได้ขายอาหารเพียงอย่างเดียว แต่เรากำลังขายบริการด้วย ซึ่ง MK ให้ความสำคัญกับเรื่องบริการตั้งแต่การเทรนด์พนักงาน ที่มีศูนย์ฝึกอบรมพนักงานเป็นของตัวเอง การสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในทุกๆ จุด (เคยมีร้านอาหารไหนพนักงานเต้นให้ลูกค้าดูบ้าง ?)

2 ข้อนี้ถือเป็นจุดแข็งหลักที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ

*หมายเหตุ

  • GMP (Good Manufacturing Practice) ข้อกําหนดที่ต้องดําเนินการเพื่อให้ได้อาหารที่เหมาะสมสําหรับมนุษย์บริโภค
  • HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) มาตรฐานการผลิตที่มีมาตรการป้องกันอันตราย ที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร

3.ค้นหา และพยายามเข้าใจความต้องการผู้บริโภค

ถ้าย้อนกลับไป MK นับเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีแบบสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจมาตั้งที่โต๊ะ ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะการทำธุรกิจอาหาร ความต้องการของผู้บริโภคต้องมาเป็นอันดับแรก นับเป็นการทำงานแบบ Outside in คือมองจากภายนอก เพื่อนำมาพัฒนาภายใน จะทำให้เราพัฒนาได้ตรงจุดมากกว่านั่งคิดเอาเองว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร

นอกจากนี้ยังมีการทำวิจัยผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ มีการสอบถามความคิดเห็นลูกค้าตลอดเวลา เพื่อนำไปปรับปรุงอาหารและการบริการ

ข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่ร้านอาหารอื่นๆ ควรนำไปปรับใช้ เพราะจะทำให้เจ้าของรู้ว่าข้อบกพร่องที่แท้จริงของร้านคืออะไร และสมควรพัฒนาหรือปรับปรุงด้านไหนเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด

4.เทคโนโลยี ช่วยให้ก้าวได้ไกลกว่าคู่แข่ง

ถ้าบอกว่า MK ถือเป็นผู้นำเรื่องการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับร้านอาหารก็ถือว่าไม่ผิดนัก เพราะตั้งแต่ร้านอาหารอื่นๆ ยังใช้จดออร์เดอร์ลงบนกระดาษ แต่ MK นำเครื่อง PDA มาให้พนักงานใช้ซะแล้ว

“เราไปเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ตในอเมริกา กำลังใช้เครื่อง PDA (Personal Digital Assistant ) ในการเช็คสต๊อก เราก็มาคิดว่าหากเอา PDA มาใช้รับออร์เดอร์จากลูกค้าแทนการจดลงบิลก็น่าจะดีไม่น้อย พอมาศึกษาโดยละเอียดแล้ว การใช้อุปกรณ์ตัวนี้เข้ามา จะช่วยเพิ่มผลผลิตได้เป็นอย่างมาก เราก็เอามาใช้ ลูกค้าก็ชอบ เพราะบริการได้เร็วขึ้น”

ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป

จนตอนนี้เริ่มให้ลูกค้าใช้ระบบจอสัมผัส ติดอยู่ตามโต๊ะ จะได้สั่งอาหารได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยเรียกพนักงาน ประหยัดทั้งเวลาและกำลังคน

เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้ดีต่อธุรกิจในแง่การบริหารจัดการ การเช็คสต๊อก การจัดทำบัญชีรายการต่างๆ เท่านั้น ยังถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์ด้วย เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าร้านอาหารมีการบริหารจัดการที่ดี ทันสมัย และน่าเชื่อถืออีกด้วย

5.ระบบแข็งแกร่ง ขยายสาขาก็ราบรื่น

ปี 2529 MK เริ่มเปิดบริการร้านสุกกี้ที่ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว

  • ปี 2538 เปิดครบ 30 สาขา
  • ปี 2543 เปิดครบ 100 สาขา
  • ปี 2548 เปิดครบ 200 สาขา
  • ปี 2552 เปิดครบ 300 สาขา
  • ปี 2556 เปิดครบ 400 สาขา

จะเห็นว่าในช่วงปีให้หลัง MK มีการเติบโตและขยายสาขาแบบก้าวกระโดด ภายในระยะเวลาเพียง 4-5 ปี ขยายได้ถึง 100 สาขา!

การที่ขยายสาขาได้รวดเร็วขนาดนี้ ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการวางระบบให้พร้อม ซึ่งปฏิเสธไมได้เลยว่า MK คือหนึ่งในร้านอาหารที่มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ฉะนั้นเมื่อขยายสาขาใหม่ก็แทบไม่จำเป็นต้องวางระบบใดๆ ใหม่เลย เพียงแค่ยกระบบเดิมที่ถูกออกแบบและพัฒนามาแล้ว ไปใช้ในสาขาใหม่ได้ทันที วิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานและลดความผิดพลาดได้มากขึ้นด้วย

และแน่นอนว่า เมื่อขยายสาขาได้มากขึ้น ลูกค้าก็เข้าถึงธุรกิจได้มากขึ้น (ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเดินไปที่ห้างฯ ไหน จังหวัดอะไรก็ต้องเจอ MK) ยอดขายก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

6.แตกไลน์ธุรกิจ สร้างการเติบโต

Miyazaki / Hakata Raman / Yayoi / Le Siam / Le petit / ณ สยาม คือแบรนด์ลูกในเครือ MK ทั้งหมด เมื่อดูข้อมูลทางการเงินของ MK พบว่า

  • ปี 2558 มีรายได้ 14,478 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 1,856 ล้านบาท
  • ปี 2559 มีรายได้ 15,146 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 2,100 ล้านบาท
  • ปี 2560 มีรายได้ 16,073 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 2,425 ล้านบาท

ข้อมูลจาก ข้อมูลทางการเงิน MK

จะเห็นได้ว่ามีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 1000 ล้าน และมีกำไรเพิ่มขึ้นปีละ 300 ล้านบาท! (อย่างเราแค่ล้านเดียวก็จะแย่แล้วจริงไหมครับ 555) นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้หยุดแค่การทำธุรกิจร้านสุกี้ แต่แตกไลน์ธุรกิจไปยังร้านอาหารประเภทอื่นๆ ด้วย

การมองหาโอกาสในการเติบโตอยู่เสมอ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจให้ยั่งยืน

พอจะทราบเหตุผลคร่าวๆ แล้วใช่ไหมครับ ว่าเพราะอะไร MK แบรนด์เก่าแก่ ที่ไม่แก่สมวัย สามารถทำกำไรได้มหาศาล แถมยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ร้านอาหารไหนอยากโตแบบนี้ ลองนำบทเรียนจาก MK ไปปรับใช้กันนะ

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://mkrestaurant.com
http://www.pattanakit.net

เรื่องแนะนำ

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้!

สถิติจาก Wongnai รายงานว่า ในบรรดาร้านอาหารที่เปิดหลังปี 2660 มีเพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด  ซึ่งปัญหาที่ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เป็นเพราะไม่ได้มีการวางแผนธุรกิจมาก่อน หรือศึกษากลุ่มลูกค้าในตลาดไม่ดีพอ และปัญหาสำคัญที่พบมากที่สุดจนทำให้ร้านต้องปิดกิจการลงนั้น คือการบริหารต้นทุนที่ผิดพลาด คุมต้นทุนไม่อยู่ บางร้านแม้จะขายดีแต่ก็ไม่มีกำไร ดังนั้น เจ้าของร้านควรจะต้องรู้จัก โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร ถ้าไม่อยากเจ๊ง   โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้! สิ่งจำเป็นที่คนจะเปิดร้านอาหารต้องรู้ ก็คือเรื่องของ โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร สิ่งนี้จะเป็นตัวแนะแนวทางว่า ในการจะเปิดร้านอาหาร คุณควรลงทุนกับอะไรบ้าง มีต้นทุนในส่วนไหนที่ต้องรู้ และจะต้องวางแผนอย่างไรก่อนที่จะเปิดร้านอาหาร  เบื้องต้นเราสามารถกำหนดโครงสร้างต้นทุนร้านอาหารได้เป็น 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้ ต้นทุนวัตถุดิบ (Food Cost) ค่าวัตถุดิบอาหาร รวมไปถึงค่าบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหาร เจ้าของร้านควรจะใส่ใจและควบคุมต้นทุนส่วนนี้ให้ดี โดยต้นทุนวัตถุดิบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน ถ้าเป็นร้านทั่วไปจะอยู่ที่ 25-30% แต่ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ อาจมีต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นเป็น 45-50% ซึ่งทางร้านอาจจะต้องชดเชยด้วยการลดต้นทุนด้านอื่น เช่น ต้นทุนแรงงาน โดยให้ลูกค้าบริการตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้กำไรในอัตราที่เหมาะสม หรือใช้วิธีการควบคุมต้นทุนในส่วนอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละร้าน   […]

เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ

4 ทักษะที่เจ้าของร้านต้อง เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ

เจ้าของหลายร้านๆ คนก็คงเจอปัญหานี้เกี่ยวกับการบริการของพนักงาน แต่ไม่รู้จะปรับปรุงอย่างไร เราจึงมี 4 ทักษะที่เจ้าของร้านต้อง เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ มาแนะนำ

Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ

                “เมื่อสินค้าไม่ได้แตกต่าง ลูกค้าจะเปรียบเทียบที่ราคาเสมอ” นั่นเป็นเหตุผลว่าคุณจะต้องทำร้านอาหารให้แตกต่างจากคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง นอกจากการออกแบบสินค้าและบริการ ก็คือ การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ แล้วจะสร้างแบบไหน Go Mass หรือ Go Niche ที่เหมาะสมกับร้านของคุณ บทความนี้มีคำตอบ   >>MASS คืออะไร Niche เป็นแบบไหน ?             การมุ่งตลาด Mass คือ การทำร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม มีความต้องการชัดเจน มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ในขณะที่ Niche คือ การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ มีขนาดตลาดที่แคบลงมา มีผู้เล่นน้อยราย มุ่งการสร้างมูลค่าให้กับสินค้า และสามารถขายสินค้าในระดับราคาที่สูงมากกว่า Mass ยกตัวอย่าง สมัยก่อนร้านอาหารญี่ปุ่นมีความนิยมที่จำกัด เนื่องจากมีราคาสูง นิยมแค่คนไทยที่เคยไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงไปแฝงตัวตามย่านธุรกิจที่มีคนญี่ปุ่นทำงานและใช้ชีวิตอยู่ เช่น สุขุมวิท สีลม จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้าง Niche […]

อุทาหรณ์ลูกค้าโอนเงิน แต่ดูสลิปไม่ดี ดูอีกทีเงินเข้าแค่ 7 บาท วิธีป้องกันกรณีลูกค้าขอสแกน

ลูกค้า โอนเงิน แต่ดูสลิปไม่ดี สุดท้ายดูอีกทีเงินเข้าแค่ 7 บาท อุทาหรณ์แม่ค้า – สมาชิกกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” ให้กำลังใจ พร้อมแชร์วิธีป้องกันกรณีลูกค้าขอสแกน ถือว่าลูกค้ามาให้ประสบการณ์… ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มาโพสต์แชร์เรื่องราวในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” หลังเธอได้ขายเครื่องดื่มให้กับลูกค้า และใช้การจ่ายด้วยการ โอนเงิน แต่พอมาตรวจสอบรายการเดินบัญชีดูอีกที ถึงกับงานเข้า เมื่อยอดเงินที่ได้รับโอนมามีแค่ 7 บาท!   ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้โพสต์ว่า “ลูกค้ามาให้ประสบการณ์ค่ะ สั่งอเมริกาโน่ร้อน 1 แก้ว ราคา 35.- คาปูชิโน่เย็น 1 แก้ว ราคา 40.- ลูกค้าขอสแกน เสร็จก็ให้เราดู ไอ้เราก็ตาดี๊ดี มองเห็นเลข 7 ก็ว่าขอบคุณค่ะ พอมาดูยอด งานเข้าแล้วตรู555 ขอบคุณคุณลูกค้าที่มาให้ประสบการณ์” พร้อมแนบหลักฐานเงินเข้ามาด้วย ซึ่งในนั้นก็ได้ระบุว่ามีเงินเข้าแค่ 7 บาท จริงๆ ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่มคนบ้ากาแฟทั้งผู้บริโภคและเจ้าของร้านต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่รู้สึกเห็นใจเจ้าของร้านรายนี้เป็นอย่างมาก และขอเป็นกำลังใจให้เธอ ในขณะเดียวกันหลายคนก็มองว่าลูกค้ารายนี้ใจร้ายมาก ๆ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.