8 เทคนิค การตลาดร้านอาหาร เกาะกระแสฟุตบอลโลก
การตลาดร้านอาหาร ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่ช่วยให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ ยิ่งช่วงนี้กระแสฟุตบอลโลกมาแรง ร้านอาหารหลายๆ ร้านจึงเลือกเกาะกระแสนี้มาทำการตลาด แต่จะมีเทคนิคอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ
“ผมให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก” “พนักงานเป็นอันดับที่ 2” “แล้วผู้ถือหุ้นถึงจะเป็นอันดับที่ 3” เป็นการจัดลำดับความสำคัญของ Jack Ma ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Alibaba เจ้าตลาด E-commerce ของจีน ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เหตุผลคือ ลูกค้าคือคนที่จ่ายตัง ส่วนพนักงานคือคนที่ขับเคลื่อนองค์กร แต่เมื่อไรก็ตามที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผู้ถือหุ้นคือกลุ่มแรกที่จะขายหุ้นออกไป แต่ลูกค้าและพนักงานยังต้องอยู่กับบริษัท (เริ่มเข้าใจวิธีคิดของเขาละครับ)
Jack Ma จะคอยเฝ้าดูว่า ลูกค้าใช้ชีวิตอย่างไร มีพฤติกรรมการซื้อของอย่างไร แล้ว website แบบไหนที่ลูกค้าชอบ ใช้งานง่าย เทคโนโลยีแบบไหนที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้
ตัวเขาเองไม่ใช่คนที่เก่งเทคโนโลยี แต่เป็นคนที่มองเทคโนโลยีจากสายตาของลูกค้าครับ นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ Alibaba ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทในดวงใจของคนทั้งโลก
“ลูกค้าไม่ได้อยากมาดูบอล แต่เขาต้องการความตื่นเต้น เขาต้องการความสุข” อาจารย์ วิว ผศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร มือหนึ่งด้านการตลาดจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฟันธงให้ผมฟัง
อาจารย์วิว ขยายความว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าจริงๆ ต้องยอมรับก่อนว่า ช่วงที่เกิดกระแสระดับโลก อย่างฟุตบอลโลกนี้ พฤติกรรมของลูกค้าจะเปลี่ยนไป ลูกค้าจะไม่ทานอาหารแบบเดิมๆ
ผมขอให้อาจารย์วางกรอบ 3 ช่วงเวลา ที่ร้านอาหารจะสามารถเกาะกระแสฟุตบอลโลกได้ ซึ่งก็คือ ช่วงก่อนการแข่งฟุตบอลโลก ระหว่างแข่งขัน และหลังการแข่งขันจบลง มาดูเทคนิคในแต่ละช่วงเวลากันครับ
ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มแข่ง ตั้งรับกันอย่างไรดี?
- “ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้ตรงจุดและแตกต่าง”อาจารย์วิวแนะนำให้เจ้าของร้านอาหารวางแผนชัดๆเลยว่าอยากจะทำการตลาดอะไร
หลักๆ เราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราในช่วงการแข่งขันรอบแรกๆ จะดูบอลที่ไหน ดูที่บ้านไหม แล้วนัดหลังๆ ลูกค้าจะเปลี่ยนที่ดูไหม จะนั่งดูดึกไหม
ต้องฝึกตั้งคำถามเรื่อยๆ เพื่อให้รู้ว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร จะได้ตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด เช่น ควรปรับโปรโมชั่นอย่างไร ควรปรับเมนูไหม สิ่งสำคัญคือ การฝึกตั้งคำถามและเตรียมตัวให้พร้อมครับ
“การทำการตลาดมันมีอะไรมากกว่า ให้ทายผลฟุตบอล หรือถ้าจะให้ทายผล มันก็มีวิธีสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง” กูรูด้านการตลาดแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชวนให้คิดอย่างน่าสนใจครับ
ช่วงระหว่างแข่ง ก็ต้องควักออกมาทุกกลเม็ด !
- “แข่งนัดหลังๆ เริ่มอยู่ไม่ติดบ้านกันแล้วละ”
ช่วงแรกของการแข่งขัน ร้านอาหารต้องหันมาเน้นสั่งทางออนไลน์ หรือทางโทรศัพท์มากขึ้น อาจารย์วิวเล่าให้ฟังถึงธรรมชาติของลูกค้า
“อย่าไปคิดว่าลูกค้าจะออกมาทานอาหารหน้าปากซอย เราต้องคิดว่าอาหารต้องไปหาลูกค้าก็ได้ ไม่ใช่รอให้ลูกค้ามาหาเรา อย่างเดียว”
(ดูบอลดึกๆ คนมักจะหิว เพราะฉะนั้นนี่คือโอกาสทองของคนที่ยอมเปิดร้านดึกขึ้น และขยายบริการส่งถึงบ้าน พูดง่ายๆคือลูกค้าทำอะไร เปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไร เราก็ต้องเปลี่ยนตาม)
- “อาศัยช่วงกระแสนี้แหละ โปรโมทร้านซะเลย”
อาจารย์วิว เริ่มให้เทคนิคละครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าใส่เสื้อทีมฟุตบอล ตอนที่คนของเราไปส่งอาหารที่บ้าน แล้วถ่ายรูปเซลฟี่ โพสต์ลง social media ก็จะได้ส่วนเครื่องดื่มฟรี หรือไม่คิดค่าส่ง เป็นต้น
(ยุคนี้เป็นยุคที่คนเชื่อเพื่อนพูดมากกว่าให้แบรนด์พูดเอง และยิ่งถ้าโพสต์ดึกๆนะครับ น่าจะช่วยกระตุกต่อมความหิวได้ดีเลย)
- “ยกทีม มาไว้ที่นี่”
เช่น เพิ่มเมนูขาหมูเยอรมัน หรือ Fish and chip จากอังกฤษ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เป็นอีกตัวอย่างที่เราสามารถเกาะกระแสฟุตบอลโลก ทำให้ร้านของเราเป็นที่สนใจได้เช่นกัน (และเผลอๆ ถ้าเมนูนั้นขายดีมาก เราอาจจะได้เมนูใหม่ประจำร้านเลยก็ได้นะครับ)
- “ทำให้ร้านของเรา เป็นบ้านหลังที่ 2 ในใจลูกค้า”
พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ในช่วงการแข่งขันรอบลึกๆ คือการออกมานั่งทานอาหารกับเพื่อนๆ ที่ร้าน มาสนุกกัน มาลุ้นกัน มาตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน
เจ้าของร้านเองอาจจะลองสร้างกิมมิค เล็กๆ น้อยๆ เช่น ถ้าคนมาดู 3 นัด จะได้อะไร ถ้าพาเพื่อนๆ มา 10 คนจะได้อะไร เป็นต้นครับ (อย่าลืมว่า การเชียร์กีฬากับเพื่อนๆ จะรู้สึกสนุก และยิ่งถ้าชวนเพื่อนๆ แล้วได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม ลูกค้าก็เต็มใจชวนเพื่อนมากขึ้น นั่นหมายความว่าเจ้าของร้านก็ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ครับ)
- “บางครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องโพสต์รูปอาหารเสมอไป”
“คุณลองสร้างกิมมิคแบบนี้ก็ได้นะ เช่น ให้ลูกค้าลองนึกดูว่า ฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วคุณดูกับใคร หรือตอนม.6 จำได้ไหมว่าดูที่ไหน”
อาจารย์วิวให้เทคนิคเพิ่มเติม หลังจากนั้นให้ลูกค้าแชร์ภาพในอดีต มาประกวดกัน ภาพไหนเจ๋งก็จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบางอย่างจากทางร้าน วิธีนี้จะเป็นวิธีที่สนุกและลูกค้าก็จะช่วยกันแชร์ ช่วยโปรโมทแบรนด์ของเราได้อีกทางครับ
- “Offline to Online เชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน”
อย่าลืมว่า ช่วงระหว่างดูบอลจะมีพักครึ่งเวลา สิ่งที่เจ้าของร้านอาหารสามารถทำได้คือ อัพเดทผลคะแนน หรือส่งข้อความให้กำลังใจสำหรับทีมที่กำลังโดนนำอยู่ (ถ้าถ่ายภาพการเชียร์สนุกๆ ที่ร้านแล้วโพสต์ไป ก็จะเป็นการชวนให้คนที่ดูอยู่บ้าน อยากออกมาเชียร์และทานอาหารที่ร้านในนัดถัดไป)
ส่วนถ้าจะสร้างสีสันที่ร้านอาหารก็ต้องมีเทคนิคครับ “คุณจะตั้งเป็นชื่อ Happy Hour หรือ Golden Time อะไรก็ได้” อาจารย์วิวให้แง่คิดที่เอาไปใช้ได้ที่ร้านอาหารในช่วงพักครึ่งเวลาครับ เช่น ถ้าลูกค้าสมัครสมาชิกตอนนี้ก็จะได้แต้ม และถ้าลูกค้าทายผลถูกก็อาจจะได้แต้มมากขึ้น เพื่อสะสมไว้ใช้ครั้งต่อไป หรือถ้าอยู่ดูหลายๆ คู่ ก็จะได้แต้มเพิ่มขึ้น เป็นต้นครับ
แต่ถ้าจบการแข่งขัน แล้วรอคู่ต่อไปอาจจะต้องรอนานหลายชั่วโมง เราก็ต้องคิดแล้วว่า จะทำอย่างไร เช่น มีการเล่นดนตรีสด สร้างสีสันให้ลูกค้า ให้รู้สึกเพลิดเพลิน อยากชวนเพื่อนๆ มานัดสังสรรค์กัน
- เกมจบ เราอย่าจบ
“นี่ไม่ใช่ event ชั่วคราว แต่เป็นโอกาสได้ลูกค้าระยะยาว” คือกรอบความคิดที่อาจารย์วิว แนะนำ
ตอนช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ถ้าเรามีวิธีดึงดูดลูกค้าที่ดี ลูกค้าก็จะมาทานอาหารที่ร้านอย่างแน่นขนัด แต่ตามธรรมชาติที่พอกระแสจบ ลูกค้าก็อาจจะลดลงบ้าง แต่ฐานข้อมูลลูกค้า คือสิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
อย่าลืมว่าการแข่งขันใหญ่ๆ แบบนี้ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว มีสารพัดการแข่งขันทั้งฟุตบอลยูโร ฟุตบอลระดับสโมสร นั่นแปลว่าถ้าเราเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าได้ เราก็จะเจอกลุ่มลูกค้าที่เขาชอบเกมกีฬาแบบนี้ แค่นี้เราก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ (เช่น facebook, line, email, เบอร์โทร)
ฐานข้อมูลลูกค้าจะเป็นช่องทางช่วยให้เราติดต่อสื่อสาร และชวนให้มาเป็นลูกค้าประจำ เป็นแฟนคลับประจำร้านของเราตลอดไปครับ
ความเห็นของถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน
การที่เรามองหากลุ่มลูกค้าของเราให้เจอเป็นสิ่งที่สำคัญครับ แต่การที่เราเข้าใจ “Journey” หรือการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า พูดง่ายๆ ว่า ถ้าลูกค้าจะไปทำอะไร ที่ไหน เราเองต้องพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข
และการที่เราเข้าใจลูกค้ามากๆ ก็จะช่วยให้เรารู้ว่าเทคโนโลยีไหนที่เหมาะกับการดึงดูดให้ลูกค้ามาที่ร้านอาหารของเรา และฐานข้อมูลที่เรามี ก็จะช่วยให้เราเข้าใจกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และมีโอกาสสร้างฐานแฟนคลับได้มากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างที่ Jack Ma บอกแหละครับว่า ตัวเขาเองไม่ใช่คนที่เก่งเทคโนโลยี แต่เป็นคนที่มองเทคโนโลยีจากสายตาของลูกค้าครับ
ขอให้โชคดีในการทำธุรกิจ และเชียร์บอลโลกอย่างมีความสุขครับ