สร้างเนื้อหา อย่างไร ให้โดนใจบน Facebook - Amarin Academy

สร้างเนื้อหา อย่างไร ให้โดนใจบน Facebook

สร้างเนื้อหา  อย่างไร ให้โดนใจบน Facebook

เมื่อคุณเริ่มลงมือทำเพจ Facebook ร้านอาหารเป็นของตัวเอง นอกจากการใส่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับร้านอาหารให้ละเอียดชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อแล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อมาก็คือการสร้างสรรค์เนื้อหาในหน้าเพจร้านอาหารให้คนสนใจด้วย เราจึงรวบรวม 4 ขั้นตอนในการ สร้างเนื้อหา ให้โดนใจบน Facebook  ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับเพจร้านอาหารของคุณตั้งแต่วันนี้ได้เลย

1.วิเคราะห์ตนเอง ตั้งเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร

ตั้งต้นจากการสำรวจร้านอาหารของคุณก่อนว่าคุณขายอะไร ตัวตนของร้านเป็นแบบไหน ต้องการให้ใครเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก กลุ่มลูกค้ารอง เพื่อจะได้สร้างเนื้อหาให้ตอบโจทย์กับคนกลุ่มนั้นๆ เช่น ร้านของคุณขายสลัดผัก ก็ต้องเน้นไปที่กลุ่มคนรักสุขภาพ ทำให้คุณรู้ได้ในทันทีว่าเนื้อหาที่ต้องการจะสร้างสรรค์นั้นต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การกิน การออกกำลังกาย ฯลฯ

2.สร้างเนื้อหาที่ตอบสนองต่อความสนใจ

สำหรับมือใหม่หัดสร้างเนื้อหา นอกจากเนื้อหาเพื่อการขายแล้ว อาจนำเสนอเรื่องราวที่ให้ความรู้ หรือเรื่องที่กำลังอยู่ในกระแสสังคม ก็สามารถหยิบยกมาทำ content ได้ หลังจากได้หัวข้อแล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกรูปแบบการนำเสนอให้เข้ากับเนื้อหาด้วย

โดยปัจจุบันมีรูปแบบที่นิยม เช่น Quote คำคม แนวความคิดของผู้มีชื่อเสียง, Short content มีเนื้อหาสั้นกระชับ ใช้ภาษาเขียนที่เข้าใจง่าย ประกอบภาพที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเพียงภาพเดียว, Photo series ชุดภาพเล่าเรื่อง ที่เห็นกันบ่อยๆ คือ ภาพลายเส้นที่มักใช้ภาพเฟรมเดิมซ้ำๆ แต่ใช้วิธีเปลี่ยนคำพูดของตัวละครเพื่อเล่าเรื่อง, Infographic นำเสนอเนื้อหาทั้งหมดภายในภาพกราฟฟิกภาพเดียว, Clip ภาพเคลื่อนไหว นำเสนอบรรยากาศของร้าน หน้าตาของอาหาร เป็นต้น

3.ซื้อ Ads เพื่อสร้างการรับรู้

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากอยากให้คนรู้จักเพจร้านอาหารของคุณได้เร็วขึ้น คงต้องลงทุนกับการซื้อโฆษณาโปรโมทร้านอยู่บ้าง โดยการซื้อ Like เป็นวิธีที่ทำให้มีคนติดตามเพจของคุณมากขึ้น ส่งผลให้เวลาคุณโพสต์ข้อความใดๆ ลงไป ก็จะมีคนเห็นโพสต์นั้นมากขึ้นตามไปด้วย และใช้การซื้อ Boost Post สำหรับเมนูใหม่ๆ หรือนำเสนอโปรโมชั่นให้โดนใจ เพื่อเรียกลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอีก

4.ตอบกลับอย่างใส่ใจ

เพื่อให้หน้าเพจไม่เงียบเหงาและเป็นการสื่อสารทางเดียว แอดมิน (ผู้ดูแล) ของเพจจึงควรตอบกลับข้อความแสดงความคิดเห็นทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชม เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณใส่ใจกับทุกความคิดเห็น และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และสุดท้ายอย่าลืมวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ทำไปว่า เนื้อหาแบบไหนที่คนสนใจและควรจะทำต่อ หรือเนื้อหาแนวไหนที่คนให้ความสนใจน้อย ก็ต้องหาวิธีปรับเปลี่ยนรูปแบบไป

เมื่อสร้างเนื้อหาอย่างต่อเนื่องและมีฐานลูกเพจมากพอควรแล้ว จะทำให้การสร้างการตระหนักรู้ต่อแบรนด์เป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะมีคนเห็นข้อความจากเพจของคุณมากขึ้นนั่นเอง

ส่วนจะจูงใจให้ลูกค้าเข้าร้านของคุณได้อย่างไรนั้น ปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดจากการออกโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ ลองอ่านบทความที่น่าสนใจ สำหรับการออกโปรโมชั่น ต่อได้ใน 5 กลยุทธ์ ออกโปรโมชั่น ให้ปัง

เรื่องแนะนำ

Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ก็ต้องอ่านใจลูกค้าให้ออก.. ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว ฉะนั้นการทำการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจำชื่อลูกค้า, ส่งข้อความ หรืออีเมล์ไปอวยพรวันเกิด พร้อมส่วนลดต่างๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้กำลังจะกลายมาเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์ที่จะสะกิดใจคนได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่รู้จักและรู้ใจลูกค้า ด้วยการทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องรีบทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัว รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าร้านได้อย่างยิ้มแย้มและเต็มใจ หัวใจของ Hyper Personalization อยู่ที่ “Big Data” ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการตลาดแบบ Hyper Personalization เป็นการนำ Big Data แบบเรียลไทม์มาใช้ในการคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อทั่วไป แต่เป็นการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลูกค้าคนนี้อยากจะซื้อกับเราครั้งถัดไปเมื่อไหร่ หรือจะกระตุ้นเขาให้ซื้อได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง Big Data คือการนำข้อมูลรอบๆ ตัว จากหลายๆ ส่วนมาประมวล วิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ  จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ที่จะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า […]

5 Step ตั้งราคาขาย เรียกลูกค้าเข้าร้าน

การทำร้านอาหาร มีหลายขั้นตอนในการทำ ที่สำคัญกับร้านไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการที่ดี การเลือกพนักงาน ระบบหลังบ้าน ซึ่งอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการ ตั้งราคาขาย แล้วเจ้าของร้านควรมีวิธีตั้งราคาอย่างไร เพื่อเรียกลูกค้า มาดู 5 Step การตั้งราคาขายกัน   5 Step ตั้งราคาขาย เรียกลูกค้าเข้าร้าน 1.คำนวณง่าย จ่ายเร็ว การตั้งราคาเป็นตัวเลขง่าย ๆ ช่วยให้ลูกค้าไม่ลังเลที่จะซื้อ รวมถึงตัวเลขกลม ๆ ไม่มีเศษสตางค์ ที่ง่ายต่อการทอนเงิน เพื่อลดเวลาในการคิดประมวลผลให้สั้นที่สุด ยังรวมถึงการปัดเศษให้กับสินค้าที่ต้องการให้ซื้อมากกว่า 1   เช่น 3  จาน 100   นั้นง่ายกว่า ขายจานละ 3.33   ซึ่งช่วยทำให้การเพิ่มการขายหน้าร้านทำได้ขึ้นอีกด้วย   2. ตัวเลขที่ดึงความสนใจได้ทันที การลงท้ายด้วยเลข  9 เป็นหลักจิตวิทยาในการจูงใจขั้นต้น ยังสามารถจูงใจลูกค้าให้รู้สึกว่าจ่ายน้อยลง จากการลดตัวเลขราคาหลักด้านหน้าลง 1 หลัก เช่น 200 บาท ลดเหลือ 199 บาท  […]

มัดใจลูกค้า

กระตุ้นการซื้อซ้ำ มัดใจลูกค้า ด้วยLine@

โลกในยุคนี้ที่อะไรๆ ก็ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายที่มีมากขึ้น คู่แข่งทางการตลาดในสินค้าหรือบริการชนิดเดียวกันที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

จุดขาย

3 จุดขาย ปั้นร้านให้เป็นจุดหมาย (Food Destination)

ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอาหารประเภทใด คุณ (อาจ) ไม่ใช่คนเดียวที่กำลังทำธุรกิจนั้นๆ อยู่ แล้วคุณจะหา จุดขาย ให้ร้านของคุณแตกต่างจากร้านอาหารของเจ้าอื่นได้อย่างไร

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.