4 ทักษะที่เจ้าของร้านต้อง เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ - Amarin Academy

4 ทักษะที่เจ้าของร้านต้อง เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ

4 ทักษะที่เจ้าของร้านต้อง เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ

รู้หรือไม่ จากการสำรวจของ  Consumer Reports National Research Center สิ่งที่ลูกค้าตำหนิร้านอาหารมากที่สุดมี 4 ข้อด้วยกัน คือ พนักงานไม่สุภาพ บริการช้า เสิร์ฟอาหารผิด และไม่เต็มใจบริการ เชื่อว่าเจ้าของหลายร้านๆ คนก็คงเจอปัญหานี้เช่นกัน แต่ไม่รู้จะปรับปรุงพนักงานอย่างไรน่ะสิ เราจึงมี 4 ทักษะที่เจ้าของร้านต้อง เทรนด์พนักงานเสิร์ฟ มาแนะนำ

1.ทักษะด้านการสื่อสาร

การสื่อสารถือเป็นทักษะสำคัญอันดับต้นๆ ที่พนักงานทุกคนควรมี โดยทักษะการสื่อสารนี้หลายคนมักเข้าใจว่าใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วทักษะนี้ยังจำเป็นสำหรับการสื่อสารระหว่างพนักงานเองด้วย เพราะหากพนักงานขาดทักษะด้านการสื่อสารอาจส่งผลเสียต่อร้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อออร์เดอร์ผิด บอกความต้องการของลูกค้าพลาด ทำตามคำสั่งของเชฟหรือผู้จัดการร้านได้ไม่ถูกต้อง หรือพนักงานพบเจอปัญหาภายในร้านแต่ไม่กล้าบอกผู้จัดการ หรือไม่สามารถอธิบายปัญหาที่ตนเองเจอได้ ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยๆ อาจทำให้ระบบการทำงานรวน และขาดประสิทธิภาพ หรือบางครั้งปัญหาเล็กๆ ที่พนักงานไม่ยอมบอกอาจบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้

ทั้งนี้วิธีการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารที่ดีที่สุด การสร้างบรรยากาศการทำงานให้เอื้อต่อการพูดคุยและแสดงความคิดเห็น กระตุ้นให้พนักงานพูดคุยหรือบอกเล่าปัญหาที่พบเจอในการทำงานกับผู้จัดการร้านหรือเจ้าของร้านทุกๆ วันหรือทุกๆ สัปดาห์ โดยสิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดคือการที่ผู้จัดการร้านเอาแต่สั่งงานและดุด่าพนักงาน เพราะนั่นจะยิ่งทำให้พนักงานไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือไม่กล้าเล่าปัญหาให้ฟังมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อีกเทคนิคที่ควรทำคือ กล่าวชื่นชมพนักงานที่ทำผิดแล้วกล้าเล่าความผิดตัวเองให้เจ้าของร้านฟัง เพื่อที่พนักงานคนอื่นๆ จะได้ใช้เป็นแบบอย่างได้

2.ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์

หากคุณคิดว่าการเป็นพนักงานเสิร์ฟ คืองาน Routine ทำหน้าที่ซ้ำๆ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ หรือทักษะอื่นๆ นอกเหนือจากการเสิร์ฟ รู้ไหมว่าคุณกำลังไปผิดทาง เพราะจริงๆ แล้วการเป็นพนักงานเสิร์ฟ ต้องอาศัยทักษะอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะความมั่นใจในตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีและเหมาะกับความต้องการของลูกค้า

พนักงานเสิร์ฟธรรมดา อาจทำหน้าที่แค่เสิร์ฟอาหารตามความต้องการของลูกค้า แต่พนักงานเสิร์ฟที่ดีต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาได้รับมากกว่าสิ่งที่เขาคาดหวัง เช่น เมื่อลูกค้าสั่งกาแฟดำ แทนที่พนักงานเสิร์ฟจะแค่นำกาแฟมาเสิร์ฟ อาจจะถามเพิ่มเติมว่า ลูกค้าต้องการของหวานเพิ่มเติมสำหรับรับประทานคู่กับกาแฟไหมครับ วันนี้เรามีเมนูครัวซองค์โฮมเมด เพิ่งอบเสร็จร้อนๆ เลย รับด้วยไหมครับ” การยื่นข้อเสนอนี้ ไม่เพียงแต่คาดหวังยอดขายที่อาจเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความประทับใจให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณเต็มใจบริการเขาจริงๆ

วิธีการพัฒนาทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ให้พนักงานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ก่อนอื่นคุณต้องเชื่อมั่นในศักยภาพพนักงานเป็นอันดับแรก ว่าทุกคนมีศักยภาพในการพัฒนา แต่บางครั้งตำแหน่งหรือหน้าที่การงานอาจไม่เอื้ออำนวยให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ฉะนั้นเจ้าของร้านเพียงแค่ลองเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นให้มากขึ้น อาจจะจัดประชุมแล้วยกตัวอย่างสถานการณ์ขึ้นมาสัก 2-3 เหตุการณ์ แล้วให้พนักงานลองแสดงความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปัญหานั้นๆ  เช่น ถ้าวันนี้ยอดขายตกจะทำอย่างไร ถ้าลูกค้าสั่งอาหารเมนูนี้ ควรเสนอเครื่องดื่มชนิดใดเพิ่มเติม เป็นต้น โดยพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลายที่สุด เพื่อที่พนักงานทุกคนจะได้มีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง

3.ทักษะด้านการจัดการ

รู้ไหมว่า รายละเอียดเล็กๆ คือสิ่งสำคัญสำหรับร้านอาหารมาก

  • หากพนักงานบางคนละเลยรายละเอียดเล็กน้อย คุณอาจเห็นรอยนิ้วมือบนแก้วน้ำ
  • หากพนักงานบางคนทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจทำให้เสิร์ฟอาหารลูกค้าได้ช้าลง
  • หากพนักงานบางคนไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ พวกเขาจะโดนลูกค้าตำหนิ เพราะบริการช้า

พนักงานจะไม่สามารถพัฒนาทักษะด้านการจัดการของตัวเองได้เลยหากปราศจาก Feedback ฉะนั้นสิ่งที่เจ้าของร้านต้องทำคือ พูดคุยถึงข้อผิดพลาดของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ โดยร้านอาหารหลายๆ ร้านที่ประสบความสำเร็จ มักมีการประชุมกลุ่มทุกสัปดาห์เพื่อสรุปการทำงาน ชี้แจงปัญหา และหาทางแก้ไขร่วมกัน นอกจากนี้ยังเรียกคุยรายบุคคลทุกๆ เดือน หรือ 3 เดือน เพื่อติดตามผลงาน สอบถามถึงปัญหาของเขาเป็นรายบุคคล โดยเจ้าของร้านอาจช่วยพนักงานในการตั้งเป้าหมาย วางแผนการทำงาน เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นอกจากนี้เมื่อให้คำแนะนำพนักงานไปแล้ว เจ้าของร้านควรติดตามผลงานของเขาอย่างใกล้ชิด หากเขามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น สามารถบริหารจัดการงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ก็ควรมีการให้รางวัลตอบแทน เช่น เงินพิเศษ หรือบัตรกำนันร้านสปาดีๆ สักร้าน เป็นต้น

รู้ไหม…การให้บัตรกำนันเหล่านี้จะช่วยสร้างความประทับใจให้พนักงานได้ดีทีเดียว เพราะเขาจะรู้สึกว่าคุณใส่ใจในความเป็นอยู่ของเขาจริงๆ (คนทำงานเหนื่อยและยืนเมื่อยมาทั้งวัน ก็อยากจะพักผ่อนร่างกายกันบ้าง) แถมยังทำให้พนักงานคนอื่นรู้สึกอยากพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้รางวัลตอบแทนดีๆ เหล่านี้ด้วย แต่การให้รางวัลตอบแทนบางครั้งก็เป็นข้อเสีย เพราะหากคุณให้บ่อยครั้งเกินไป อาจทำให้พนักงานรู้สึกเคยชินว่า ต้องได้รับรางวัลทุกครั้งที่ทำดี ฉะนั้นเมื่อไรที่คุณหยุดให้รางวัลเขาจะรู้สึกไม่อยากทำงานก็เป็นได้ ฉะนั้นต้องให้เฉพาะโอกาสพิเศษจริงๆ เท่านั้น หรือ อาจมีรอบการมอบรางวัล เช่น ทุก 3 หรือ 6 เดือน เป็นต้น

หรืออีกปัญหาสำคัญคือ ถ้าคุณให้รางวัลพนักงานคนไหนบ่อยเกินไป ก็อาจเกิดความไม่พอใจขึ้นได้ ทางแก้คือ คุณอาจจะให้พนักงานด้วยกันเองลงคะแนนเสียงโหวตว่าใครควรได้รับรางวัล โดยอาจนำมารวมกับใบติชมจากลูกค้าก็ได้

4.ทักษะด้านการเรียนรู้

ทักษะสุดท้ายที่เจ้าของร้านควรเทรนด์พนักงานคือ ทักษะด้านการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา เชื่อว่าพนักงานที่มีทัศนคติในการทำงานเชิงบวก พร้อมปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอคือสิ่งที่นายจ้างทุกคนต้องการ เพราะจะช่วยให้ร้านของเราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น แต่พนักงานที่มีทัศนคติดังกล่าวนั้นหาได้ยากเหลือเกิน ฉะนั้นแทนที่เราจะเอาแต่มองหาพนักงานคนใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติพร้อม เราลองมาสร้างพนักงานคนนั้นเองดีกว่า

ก่อนอื่นเจ้าของร้านต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเทรนด์นิ่งให้พนักงานเป็นประจำ เปิดโอกาสให้พนักงานพัฒนาทักษะที่ตัวเองต้องการ จัดเวิร์คชอปสนุกๆ ให้พนักงานได้ลองฝึกทักษะด้านต่างๆ หรือหาสื่อที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้พนักงาน สอบถามพนักงานเป็นรายบุคคลว่าต้องการเรียนอะไรเพิ่มเติมไหม

การกระตุ้นให้พนักงานได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองสนใจ จะช่วยสร้างวัฒนธรรมการพัฒนาตัวเองให้พวกเขาได้ ยกตัวอย่างเช่นร้านกาแฟ Factory coffee สร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ด้วยการส่งพนักงานในร้านออกไปแข่งขันบาริสต้ารายการต่างๆ มากมาย จนตอนนี้พนักงานในร้านได้แชมป์บาริสต้า สาขาต่างๆ ในระดับประเทศแทบทุกคน และเจ้าของร้านเองก็เป็นแชมป์บาริสต้าของประเทศไทยด้วย

พอจะทราบถึงความสำคัญของ 4 ทักษะที่เรานำเสนอไปแล้วใช่ไหมครับ หากใครนำไปลองปฏิบัติตามแล้วผลลัพท์เป็นที่น่าพอใจ อย่าลืมส่งต่อความรู้และเทคนิคให้ผู้ประกอบการท่านอื่นๆ นะครับ

เรื่องแนะนำ

ธุรกิจมีปัญหา

3 สิ่งที่ต้องทำ เมื่อ ธุรกิจมีปัญหา

ทำธุริจคงหลีกเลี่ยงปัญหาไปไม่ได้ และบางครั้งอาจเจอปัญหาหนักจนไม่รู้จะแก้อย่างไร เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยดึงสติยาม ธุรกิจมีปัญหา มาฝาก

5 เรื่องพลาดที่คุณต้องรู้! ก่อน วางระบบร้านอาหาร เจ๊ง

เจ้าของร้านอาหารหลายแห่งประสบกับปัญหาการดำเนินงานร้านอาหาร สุดท้ายพาร้านอาหารเจ๊งไปได้ไม่รอด เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วพบว่าเกิดจากการ วางระบบร้านอาหาร  ที่ผิดพลาด และมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ในที่สุด 1. พลาด…เพราะวางระบบไม่ตอบโจทย์ร้าน ร้านอาหารรูปแบบต่างกัน ก็มีระบบการทำงานที่ต่างกันด้วย ก่อนวางระบบร้านอาหาร จึงต้องรู้ว่าร้านของคุณเป็นร้านประเภทไหน เสิร์ฟอาหารแบบไหน เน้นการบริการรูปแบบใด การเซตอัพที่เหมาะสมกับประเภทของร้าน จะช่วยให้เกิดแผนงานที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยให้การวางแผนต้นทุนต่าง ๆ เป็นไปอย่างรัดกุม มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในการลงทุนไปกับสิ่งที่จำเป็น จัดการต้นทุนได้ ส่งผลต่อระยะเวลาในการคืนทุนของร้าน ในทางกลับกันหากระบบที่วางไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานร้านอาหารก็ทำให้เกิดผลตรงกันข้าม 2. พลาด…เพราะไม่เคยคำนึงเรื่องพื้นที่ ในการวางระบบงานครัว ทราบไหมว่า ปัญหาการเสิร์ฟอาหารช้าอาจแก้ได้แค่การเปลี่ยนผังครัว ? แต่ร้านอาหารหลายร้านอาจไม่เคยนึกถึงก่อนวางระบบ เมื่อเจอกับปัญหาการเสิร์ฟอาหารช้า ล้มเหลวในการบริหารจัดการเวลาพีคไทม์ มักไปแก้ด้วยวิธีการเปลี่ยนสูตรหรือการลดขั้นตอนบางอย่างที่ต้องใช้เวลา ซึ่งส่งผลต่อรสชาติอาหาร ปัญหาความล่าช้า อาจต้องวิเคราะห์ว่าพนักงานเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง ซึ่งต้องคำนึงถึงพื้นที่ในการทำงาน การจัดวางอุปกรณ์ให้เหมาะสมด้วย ร้านที่มีผังครัวที่ดี ทำให้พนักงานเคลื่อนไหวน้อยลง มีการจัดเรียงวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการใช้งาน จะช่วยกระชับเวลาในการจัดทำอาหารได้ไม่น้อยเลย 3. พลาด… เพราะขาดระบบสอนงานที่ดี แม้ว่าจะวางระบบร้านอาหารไว้อย่างดีแล้ว แต่หากขาดการวางโครงสร้างงานที่ดี ขาดระบบในการฝึกอบรมงาน ก็มีส่วนทำให้ระบบงานที่วางไว้ไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่มีอัตราการเข้าออกสูง ขาดระบบการฝึกงานพนักงานใหม่ นอกจากจะทำให้เสียต้นทุนเวลา ต้นทุนค่าจ้างแล้ว […]

เช็กลิสต์ QSC ระบบ ประเมินมาตรฐาน ที่ร้านอาหารคุณต้องมี!

หนึ่งในระบบเซตอัพร้านอาหารที่สำคัญ ก็คือการออกแบบเครื่องมือในการ ประเมินมาตรฐาน หรือผลการปฏิบัติงานของร้าน ที่เรียกว่า QSC  ถือเป็นคู่มือที่ใช้ควบคุมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยจะครอบคลุม 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่   เช็กลิสต์ QSC ระบบ ประเมินมาตรฐาน ที่ร้านอาหารคุณต้องมี! Q = Quality การประเมินด้านคุณภาพ เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการเก็บรักษาวัตถุดิบ วิธีการปรุงอาหารและการเสิร์ฟ ทั้งรสชาติ ปริมาณ หน้าตาอาหาร   S =Service การประเมินด้านการบริการ เริ่มตั้งแต่การต้อนรับลูกค้า การแนะนำรายการสินค้า ความเต็มใจบริการ ความสุภาพของพนักงาน ความถูกต้องในการรับรายการอาหาร   C = Cleanliness การประเมินด้านความสะอาด เริ่มประเมินตั้งแต่ การแต่งกายของพนักงาน ความสะอาดของหน้าร้านและหลังร้าน รวมไปถึงการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ครัว   ตัวอย่างการทำ QSC : ร้านกาแฟ มาดูกันว่าการทำ QSC ร้านกาแฟ จะกำหนดให้ควบคุมในเรื่องใดบ้าง ยกตัวอย่างเช็กลิสต์ […]

ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า

รวม ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า ที่คุณคาดไม่ถึง!

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เริ่มหันมาเปิดธุรกิจอาหารมากมาย ซึ่งภาพรวมตลาดอาหารในประเทศไทยยังคงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีแนวโน้มที่ยังไปต่อได้ในอนาคต และการเปิดร้านในศูนย์การค้า ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่เริ่มให้ความสนใจกันมาก เพราะเป็นสถานที่ ที่มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพบปะ สังสรรค์ ผักผ่อน และรับประทานอาหาร ศูนย์การค้าจึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมร้านอร่อย ร้านดังไว้มากมาย ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า มีอะไรบ้าง? ทำไมถึงดึงดูดเจ้าของร้านอาหารได้ มาดูกัน   ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า Branding แน่นอนว่า เมื่อร้านของคุณได้เข้ามาเปิดขายภายในศูนย์การค้า ก็เหมือนเป็นการสร้าง Branding ให้กับร้าน เกิดภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคได้ด้วย รวมถึง ผู้ใช้บริการมีโอกาสเห็นร้านของคุณได้มากกว่า ด้วยปริมาณผู้มาใช้บริการในศูนย์การค้าที่มีจำนวนมาก และมีมาใช้บริการในทุกๆวัน จึงอาจจะทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะได้รู้จักร้านของคุณมากขึ้น   Traffic ศูนย์การค้าจะมีการเก็บข้อมูลในแง่ของ Traffic ในทุกๆโซน ดังนั้น ร้านค้าที่จะมาเปิดร้านก็จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะจับกลุ่มลูกค้าในโซนนี้ได้อย่างไร จำนวนลูกค้ากี่เปอร์เซ็นต์ที่มีโอกาสจะเข้ามาในร้านได้ เช่น เปิดร้านอาหาร ศูนย์การค้าก็จะมีข้อมูลซัพพอร์ท กับทางร้านว่า บริเวณโซนหน้าโรงภาพยนตร์มี Traffic ประมาณเท่าไหร่ ร้านก็จะสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อว่า จะจับกลุ่มลูกค้าให้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าทั้งหมด ก็จะสามารถนำไปต่อยอดการประเมินยอดขายที่ควรได้ต่อวันอีกด้วย   Facility สิ่งอำนวยความสะดวกที่ว่านี้ ก็คือในแง่ของลูกค้าที่จะมาใช้บริการร้านของคุณ ซึ่งการที่ร้านอาหารของคูณอยู่ภายในศูนย์การค้านั้น ลูกค้าก็จะได้รับความสะดวกสบายไปด้วย เช่น […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.