ลูกค้าล้นร้าน ทำอาหารไม่ทัน ทำอย่างไรดี? - Amarin Academy

ลูกค้าล้นร้าน ทำอาหารไม่ทัน ทำอย่างไรดี?

ลูกค้าล้นร้าน ทำอาหารไม่ทัน ทำอย่างไรดี?

วันก่อนผมมีโอกาสไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วเจอเหตุการณ์สุดคลาสิกคือ ลูกค้าล้นร้าน ทำอาหารไม่ทัน จึงอยากเล่าสู่กันฟัง พร้อมแนะแนวทางแก้ไขง่ายๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคนครับ

วันนั้นผมไปกินข้าวมื้อเย็นกับครอบครัว ร้านนั้นเป็นร้านเล็กๆ มีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ พนักงานบริการ 2 คน ตอนแรกอาหารออกเร็วมาก นั่งรอไม่ถึง 5 นาทีจานแรกก็มาเสิร์ฟ และเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ตามปริมาณลูกค้าที่มากขึ้น เพราะตอนนั้นเป็นช่วง prime time พอดี ประมาณ 6 โมงกว่าๆ เมื่อครอบครัวของผมกินข้าวเสร็จ จึงสั่งขนมหวานต่อ

ผมรอขนมหวานเกือบ 20 นาที ระหว่างนั้นลูกค้าก็ล้นร้านเลยครับ นั่งเต็มทุกโต๊ะ แถมมีลูกค้าต่อคิวอยู่นอกร้านประมาณ 3 คิว แต่ยังโชคดีเพราะมีลูกค้า 2 โต๊ะเรียกคิดเงินแล้ว แต่พนักงานกลับวิ่งวุ่นไปบริการโต๊ะอื่นๆ เช่น จัดวางจาน ช้อน ส้อม เสิร์ฟน้ำ รินน้ำ รวมทั้งรอรับออร์เดอร์ต่างๆ ด้วย

ผมนั่งมองลูกค้าที่เรียกเก็บเงิน สลับกับลูกค้าที่รออยู่หน้าร้าน พวกเขาก็เริ่มมีอารมณ์นิดหน่อยแล้วครับ เพราะฝ่ายหนึ่งกินเสร็จแล้วก็ไม่ได้ออกจากร้านสักที อีกฝ่ายเห็นโต๊ะ (กำลังจะ) ว่างก็ยังไม่ได้เข้ามานั่ง

ผมจึงทวงถามว่าขนมที่สั่งไปว่า ได้ทำหรือยัง เอาจริงๆ เรารอได้ครับ เพราะกินอิ่มกันแล้ว แต่รู้สึกเกรงใจคนที่รออยู่หน้าร้าน รวมทั้งกลัวสายตา “มองแรง” ที่คนหิวส่งมาเป็นระยะด้วย

เมื่อพนักงานแจ้งว่ายังไม่ได้ทำ เราจึงขอยกเลิกโดยไม่ลังเลเลย พร้อมสั่งเช็คบิล ขนมหวานจานนั้นผมคาดว่าเป็นเมนูที่ทำกำไรดีทีเดียว แพนเค้ก 2 แผ่น ไอศกรีม 1 ลูก บวก topping เล็กน้อย ราคาประมาณ 140 บาท

โชคดีที่พนักงานมาเช็คบิลพร้อมกัน 3 โต๊ะรวด ทำให้ลูกค้าที่ต่อคิวอยู่ได้เข้ามาในร้านพร้อมๆ กัน

สุดท้ายวันนั้นผมเลยประหยัดไป 140 บาทครับ ส่วนร้านอาหารก็เสียรายได้ไป 140 บาท

ข้อสังเกตที่อยากวิเคราะห์ให้ฟังคือ

1.ร้านอาหารควรคาดการณ์ได้ว่าช่วงเวลา มื้อเที่ยงและมื้อเย็น ต้องมีลูกค้าเยอะจนบริการไม่ทันแน่ๆ ฉะนั้นต้องจ้างพนักงาน part time ครับ เพื่อที่จะได้บริการได้ทั่วถึง (สำหรับร้านนี้ขอเพิ่มสัก 1 คนก็น่าจะพอแล้ว) โดยทุกวันนี้มี application หรือบริษัทรับจัดหาพนักงาน part time อยู่หลายเจ้าด้วยกัน ลองศึกษาดูว่าเจ้าไหนคุ้มค่าและมีมาตรฐานมากกว่า

2.หากพนักงาน เจ้าของร้าน หรือผู้จัดการร้านเห็นว่าคิวหน้าร้านยาวเหยียด ควรรับเคลียร์ลูกค้าโต๊ะเดิมออกจากร้านให้เร็วที่สุดครับ ไม่ใช่ปล่อยให้พวกเขานั่งรอแล้วรออีก เพราะแทนที่จะได้จบมื้ออาหารแบบสวยๆ กลับต้องมารอเช็คบิล เกือบ 15 นาที แถมลูกค้ารายใหม่ยังเสียอารมณ์ในการรอโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรอีกด้วย

3.โต๊ะที่สั่งของหวาน แสดงว่าเขากำลังจะออกจากร้านคุณไม่นาทีใดนาทีหนึ่ง ทำให้คุณมีโอกาสรับลูกค้าได้มากขึ้น ฉะนั้นในมุมมองของผม ควรรีบทำขนมเสิร์ฟให้เขาก่อน เพื่อจะได้เคลียร์โต๊ะออกไปได้ แต่ไม่ใช่แซงคิวทำให้เขาทันทีนะครับ เพราะลูกค้าโต๊ะที่สั่งก่อนอาจจะเคืองได้ ควรแทรกทำระหว่างทำอาหารของโต๊ะอื่นๆ เช่น อาจจะเสิร์ฟอาหารที่ทำง่ายๆ ให้โต๊ะที่สั่งก่อน สัก 2 -3 เมนู จากนั้นสลับมาทำของหวานเพื่อเสิร์ฟโต๊ะที่กินอาหารเสร็จแล้ว ไม่ใช่ทำเสิร์ฟแต่โต๊ะที่มาใหม่ (ซึ่งอาจจะสั่งอาหารถึง 7-8 เมนู) แล้วค่อยมาทำของหวานให้อีกโต๊ะหนึ่ง อย่างนี้คนสั่งของหวานรอกันเหนื่อยเลยครับ

เนื่องจากของหวานไม่ใช่สิ่ง “จำเป็น” ที่เขาต้องเสียเวลารอเกือบครึ่งชั่วโมงครับ หากปล่อยให้เขารอนาน เขาก็พร้อมจะสั่งยกเลิกทันที และถ้าของหวานนี้เป็นเมนูที่ทำกำไรมาก ยิ่งน่าเสียดายเข้าไปใหญ่

4.อีกกรณีหนึ่งที่สามารถตัดปัญหาในขั้นตอนการเช็คบิลได้ คือให้ลูกค้าเดินไปจ่ายที่เคาท์เตอร์เลย โดยทุกวันนี้ลูกค้าเริ่มคุ้นชินกับระบบนี้กันแล้ว เพราะใช้กันแพร่หลายตามร้านอาหารใหญ่ๆ ในห้างสรรพสินค้า ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าลูกค้าจะไม่เข้าใจ โดยวิธีนี้ทั้งสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ไม่ต้องนั่งรอเช็คบิล จ่ายเงิน รับเงินทอน ซึ่งกินเวลาไม่ต่ำกว่า 10 นาทีด้วย

พอจะเห็นภาพปัญหาเฉพาะหน้าของร้านอาหารที่ต้องแก้ไขในแต่ละวันแล้วใช่ไหมครับ เจ้าของร้านอาหารต้องลองเรียนรู้ไปเรื่อยๆ สักวันร้านเราจะมีระบบที่ดีขึ้นเอง ผมหวังว่าสิ่งที่แบ่งปันไปจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนครับ แต่ถ้าใครเห็นว่ามีทางแก้อื่นที่ดีกว่า ก็แชร์ในคอมเม้นท์ได้เลยนะครับ เพื่อเป็นวิทยาทานให้เพื่อนเจ้าของร้านคนอื่นๆ ต่อไป

เรื่องแนะนำ

รับช่วงต่อกิจการ

5 เทคนิค รับช่วงต่อกิจการ ยังไง ไม่ให้เจ๊ง!

ยุคนี้หลายคนเริ่มผันตัวมาเป็นนักธุรกิจมากขึ้น ซึ่งมีทั้งที่เริ่มทำธุรกิจด้วยตัวเอง และเลือก รับช่วงต่อกิจการ จากที่บ้าน ซึ่งทั้งสองรูปแบบก็มีความท้าทายแตกต่างกัน

Crisis Management เมื่อโซเชียลทำพิษ ร้านต้องจัดการอย่างไร

เชื่อว่าเจ้าของร้านอาหารก็อยากให้ร้านของตัวเองเป็นที่พอใจของลูกค้าอยู่เสมอ แต่ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกร้าน หลายร้านเองต้องประสบปัญหากับน้ำผึ้งหยดเดียวเนื่องจากรับมือไม่เป็น Crisis Management จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารในยุคนี้ต้องรู้จักและเตรียมตัวรับมือให้ดี ซึ่งสามารถทำได้ตามวิธีที่แนะนำดังนี้   Crisis Management เมื่อโซเชียลทำพิษ ร้านต้องจัดการอย่างไร ตอบทันทีอย่าให้มีดราม่า ความไม่พอใจต่อเหตุการณ์จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นดราม่าได้หากได้รับการเพิกเฉย การตอบลูกค้ารวดเร็วจะทำให้ลูกค้าใจเย็นลง ดังนั้น ร้านอาหารควรจะวางแนวทางในการตอบคำถามไว้ โดยต้องใช้คำง่าย ๆ ตรงไปตรงมาในการตอบ และสุภาพ การพยายามเอาชนะลูกค้าย่อมไม่เป็นผลดี เช่น กรณีร้านที่เจ้าของร้านตอบโต้อย่างรุนแรงเมื่อลูกค้าติถึงคุณภาพอาหาร จากเรื่องเล็ก ๆ ที่สามารถจัดการได้ กับเป็นเรื่องใหญ่ที่ลุกลามไปยังช่องทางอื่น ๆ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่ตอบคำถามไม่ว่าจะเป็นเจ้าของหรือจ้างคนมาทำหน้าที่แอดมินโดยตรง จะต้องเป็นคนที่ใจเย็นและสื่อสารได้ดี   ขอโทษอย่างจริงใจ ถ้าคุณคิดว่าการขอโทษแสดงถึงการยอมรับ คุณกำลังคิดผิด เพราะการขอโทษไม่ได้สื่อสารถึงลูกค้าคู่กรณีเพียงอย่างเดียว แต่ร้านกำลังสื่อสารไปถึงลูกค้าคนอื่น ๆ ด้วย ว่าคุณเป็นร้านอาหารที่ให้ความใส่ใจและเห็นว่าลูกค้าเป็นคนสำคัญเพียงใด  นอกจากนี้การขอโทษเป็นการทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเพียงแค่ประเด็นเดียว ซึ่งดีกว่าการแก้ตัวที่จะทำให้เกิดประเด็นใหม่ ๆ หากคุณรับมือได้ไม่ดีพอก็จะบานปลายเกิดผลเสียมากกว่าได้ในที่สุด   รวบรวมข้อมูล…เปิดอกไกล่เกลี่ย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ รสชาติ การบริการของร้านอาหาร คุณจะต้องสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ควรแบ่งระดับความร้ายแรงของสถานการณ์ไว้ เช่น ขั้นต้น คือลูกค้าไม่พอใจรสชาติ […]

ขายอาหารคลีน

รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง!

ในปัจจุบันนี้จะสังเกตได้ว่า เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องสุขภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเรื่องอาหารการกินก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารคลีนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นโฆษณาบ่อย ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instargram และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เมื่อมีกระแสคนรักสุขภาพมากขึ้น ก็เป็นการเพิ่มช่องทางทำเงินจากธุรกิจอาหารคลีนได้มากขึ้นเช่นกัน แต่การจะ ขายอาหารคลีน ให้รุ่งนั้น ต้องรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่เป็นจุดบอดควรหลีกเลี่ยง   ขายอาหารคลีน ควรเลี่ยง 4 จุดบอดนี้!! อาหารคลีน  (Clean Food) คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงจะไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งอาหาร หรือผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด และไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งรสชาติที่มากเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งสารอาหารและคุณค่าครบถ้วน รวมถึงมีการคำนวณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละมื้ออาหารนั้นไว้ด้วย ดังนั้น อาหารคลีนจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ และถึงแม้ว่ากระแสอาหารคลีนยังคงอยู่ และมีผู้ประกอบการที่อยาก ขายอาหารคลีน เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดนะคะ ขายอาหารคลีน ยังต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ต้องรู้ รวมถึง จุดบอดที่ควรเลี่ยงอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่ง4 จุดบอดนั้นคือ จุดบอดที่ 1 รสชาติไม่อร่อย แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากจะบริโภคอาหารที่อร่อยจริงไหมคะ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนก็ตาม […]

หน้าที่ของเจ้าของร้านอาหาร

หน้าที่ของเจ้าของร้านอาหาร คืออะไร

สาเหตุหลักที่ทำให้ร้านอาหารต้องปิดตัวคือ เจ้าของร้านทำงานน้อยเกินไปหรือมากเกินไป บางคนอาจสงสัยว่า หน้าที่ของเจ้าของร้านอาหาร คืออะไร วันนี้เราจะมาเผยให้ฟัง

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.