ไวรัสโคโรน่า กระทบหนัก! ร้านอาหารปรับตัวอย่างไรในวิกฤตนี้ - Amarin Academy

ไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กระทบหนัก! ร้านอาหารปรับตัวอย่างไรในวิกฤตนี้

จากข่าวการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของ ไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 โรคติดต่ออันตรายที่กำลังแพร่ระบาดไปยังหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในหลายๆประเทศ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อ รวมถึงผู้ที่เข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังที่ผ่านมานับพันราย และได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายแล้ว จากเหตุการณ์นี้แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการหลายรายในประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แล้วร้านอาหารต้องปรับตัวอย่างไรกับสถานการณ์นี้ 

 

ไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กระทบหนัก!

ร้านอาหารปรับตัวอย่างไรในวิกฤตนี้

ไวรัสกระทบร้านอาหาร เสียรายได้หลักหมื่นล้านบาท

นักท่องเที่ยวที่น้อยลงส่งผลกระทบต่อร้านอาหารตั้งแต่ SME รายย่อยไปจนถึงรายใหญ่ ซึ่งข้อมูลจากศูนย์วิจัยธนาคารออมสินคาดการณ์ว่า หากประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ภายใน 3 เดือน ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศจะสูญเสียรายได้ไปแล้วประมาณ 16,000 ล้านบาท แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดลากยาวไปจนถึง 6 เดือน อาจจะสูญเสียรายได้มากถึง 34,000 ล้านบาท 

 

พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

จำนวนลูกค้าต่างชาติที่ลดลงส่งผลอย่างมากต่อร้านอาหารในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี  รวมถึงร้านอาหารริมทางหรือ Street Food ที่กระจายอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากนี้ ลูกค้าคนไทยเองก็มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงการออกไปในที่สาธารณะ และใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น
  • สั่งอาหารเดลิเวอรี่มากขึ้น
  • เลือกทานอาหารในร้านที่คนไม่แออัด
  • ซื้ออาหารสำเร็จรูปกลับไปทานที่บ้านแทน

พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปนี้ค่อนข้างเป็นผลเสียต่อยอดขายของร้านอาหารส่วนใหญ่ ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้และกำไรลดลง และยังส่งผลกระทบถึงพนักงานในร้านอีกด้วย ถ้าขั้นรายแรงก้อาจทำให้บางร้านไม่สามารถอยู่รอด อาจจะต้องปิดกิจการไปได้ 

 

♦ ข้อแนะนำในการปรับตัวของร้านอาหาร เพื่อให้ร้านอยู่รอดและสูญเสียรายได้น้อยที่สุด

  • สร้างความเชื่อมั่นในความสะอาด และสุขอนามัยของร้านให้แก่ลูกค้า เช่น มีการฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาทำความสะอาด หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ ในบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยครั้ง เช่น โต๊ะทานอาหาร ลูกบิดประตูของร้าน จัดหาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้บริการในจุดที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ พนักงานภายในร้านก็ควรสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงใส่ถุงมือเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอาหารโดยตรง เป็นการป้องกันการติดเชื้อ และแสดงถึงความใส่ใจของร้าน

ไวรัสโคโรน่า

  • จัดพื้นที่ในร้านให้ดูไม่แออัด หากภายในร้านมีจำนวนที่นั่งมากเกินไป เวลามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอาจจะรู้สึกอึดอัด ลองลดจำนวนที่นั่งที่ไม่ค่อยได้ใช้ออก หรือวางผังที่นั่งใหม่ เพื่อให้ลูกค้าที่มองเข้ามาในร้านจะรู้สึกได้ถึงความโปร่งสบายมากขึ้น
  • ปรับตัวตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า โดยเพิ่มรายการอาหารที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อกลับบ้านได้ทันที นอกจากนี้อาจจะทำเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเหมาะกับช่วงนี้ที่ลูกค้าใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ
  • ติดตามข่าวสารที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ เช่น ธนาคารออมสิน มีมาตรการผ่อนปรนการชำระเงินกู้สำหรับร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไวรัสแพร่ระบาด โดยลดอัตราดอกเบี้ย พักชำระเงินต้น และขยายระยะเวลาชำระหนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 
  • เพิ่มช่องทางบริการลูกค้าโดยให้ลูกค้าสั่งอาหารผ่าน Food Delivery เพราะลูกค้าเริ่มมีพฤติกรรมที่ออกจากบ้านน้อยลงและสั่งอาหารผ่าน Food Delivery มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการเพิ่มช่องทางนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางออกที่น่าสนใจ แต่อาจจะต้องคำนวณในเรื่องของต้นทุนด้วย เพราะมีเรื่องของค่าบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอาจจะต้องวางระบบการทำงานหน้าร้านให้ดี เพื่อไม่ให้ออเดอร์อาหารกระทบกับลูกค้าที่มาใช้บริการหน้าร้าน

ไวรัสโคโรน่า

 

แม้ว่าในตอนนี้ผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารจะยังไม่แย่ถึงที่สุด แต่ก็สร้างแรงกดดันอย่างมากแก่ผู้ประกอบการร้านอาหารในปัจจุบัน รวมไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่กำลังสนใจจะเปิดร้านอาหาร ว่าจะมีกลยุทธ์ในการปรับตัวอย่างไรเพื่อให้สามารถเปิดร้านต่อไปได้ หากสถานการณ์ไวรัสยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่จะทำให้ร้านอาหารสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว เราควรจะต้องมีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพในการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งวิกฤตในระยะนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการขยายตลาดเข้ามาทำตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น ในประเทศจีนเองก็มีการสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มมากขึ้นถึง 154% ซึ่งทำให้ธุรกิจเดลิเวอรี่เติบโตขึ้นมาก ทางบริษัทก็มีการปรับตัวโดยจะจัดส่งอาหารไว้ในสถานที่ที่นัดแนะกันไว้ เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องเจอกับผู้ส่งอาหารโดยตรง ซึ่งเป็นทั้งโอกาสของธุรกิจและยังได้รับความชื่นชมจากลูกค้าในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้อีกด้วย

 

ขอบคุณภาพ : Christopher PB / xinhua.net

 

เรื่องแนะนำ

สตาร์ทอัพ

SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 เปิดโอกาสนักศึกษาไทยสาย สตาร์ทอัพ

เป็นอีกหนึ่งเวทีระดับโลกที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาไทย มาร่วมแข่งขันประกวดแผนธุรกิจ สตาร์ทอัพ ระดับโลก SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 เพราะโอกาสทางธุรกิจนั้นเปิดกว้างมากขึ้น นักศึกษาไทยจำนวนมาก ก็มีความสามารถที่ก้าวไกลในการวางแผนธุรกิจสตาร์ทอัพได้ดีเช่นกัน ซึ่งปีนี้ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย จากเดิมที่เป็นการแข่งขันเฉพาะนักศึกษาระดับปริญญาโทเท่านั้น   SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 โดยการประกวดในปีนี้ จัดขึ้นในหัวข้อ Sustainability (ความยั่งยืน) สำหรับนิสิต นักศึกษาปริญญาตรีและโทภาคภาษาอังกฤษ  ชิงชนะเลิศถ้วยรางวัล พร้อมทั้งรางวัลเงินสดรวมมูลค่ากว่า 1,800,000 บาท  การแข่งขันแผนธุรกิจ สตาร์ทอัพ SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 เป็นการแข่งขันที่สนับสนุนให้นักศึกษามีความเป็นผู้ประกอบการ กระตุ้นให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ เชื่อมโยง นวัตกรรม การวิจัย การสร้างสังคมและเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างประเทศ และเป็นแพลทฟอร์มที่ให้นักลงทุนค้นพบธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ และทีมงานที่มีคุณภาพสามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจหรือลงทุนสร้างธุรกิจใหม่ได้แบบยั่งยืน เป็นโอกาสที่นักศึกษาสามารถพบเจอกับนักลงทุนที่มีคุณภาพ และสามารถช่วยกันผลักดันจากไอเดียดีๆ ให้กลายเป็นธุรกิจที่แท้จริงได้ ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2002 […]

ปรับตัววิกฤติโควิด-19 สู่การช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai Organic Platform

“เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่เราทำได้” ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เพราะวิกฤติการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ใครหลายคนต้องอยู่บ้าน พฤติกรรมการบริโภคจึงเปลี่ยนไป ความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลัก หลายๆ คนต่างต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ให้ได้ เช่นเดียวกับเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้เช่นกัน จากการที่ลูกค้าประจำที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร จำเป็นต้องยกเลิกออเดอร์ ทางสามพรานโมเดลจึงได้ริเริ่มนำเครื่องมือ Thai Organic Platform ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  (สนช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มาใช้เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงและซื้อขายสินค้าอินทรีย์ตรงจากกลุ่มเกษตรกรได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยเริ่มเปิดรับพรีออเดอร์ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตัวอย่างหน้าตาแอปพลิเคชั่น   ทางเราไม่รอช้า เมื่อสบโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน และผู้ริเริ่มสามพรานโมเดล จึงอยากจะมาเล่าถึงการปรับตัววิกฤติโควิด-19  และความคืบหน้าการเปิดใช้แอปพลิเคชัน Thai Organic Platform ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ แพลตฟอร์มขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ร่วมกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 “สังคมอินทรีย์เราเน้นเรื่องการเชื่อมโยงห่วงโซ่ ตั้งแต่ผู้ผลิตคือเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร และผู้บริโภคคือลูกค้า เหมือนเราเป็นตัวกลางเชื่อมให้ห่วงโซ่ทั้งหมดมาเจอกัน พอมีวิกฤติอย่างนี้เกิดขึ้น เราเป็นสังคมเดียวกัน […]

เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล ในโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)

ดีป้า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และบริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด (DURIAN) จัดโครงการ SMART CITY D - BOOST CAMP

อาหารเพื่อการนอนหลับ

ธุรกิจ อาหารเพื่อการนอนหลับ Zzz

รู้ไหมว่าประชาการว่า 30 % ประสบปัญหานอนไม่หลับ โดยอาหาร ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ แต่จะมี อาหารเพื่อการนอนหลับ ชนิดใดบ้างไปดูกัน

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.