5 สิ่งที่ร้านอาหารต้องปรับ เมื่อเริ่มทำ Food delivery - Amarin Academy

5 สิ่งที่ร้านอาหารต้องปรับ เมื่อเริ่มทำ Food delivery

5 สิ่งที่ร้านอาหารต้องปรับ เมื่อเริ่มทำ Food delivery

ทุกวันนี้มีบริษัทรับขนส่งสินค้าและอาหารเกิดขึ้นมากมาย ทั้ง Lineman Lalamove food panda Uber eats ฯลฯ กลายเป็นโอกาสทองของธุรกิจร้านอาหาร ที่สามารถต่อยอดเป็นบริการ Food Delivery ส่งอาหารตรงถึงที่ให้ผู้บริโภค แต่ปัญหาสำคัญคือ ร้านอาหารหลายๆ ร้านไม่รู้จะเริ่มปรับจากจุดไหน เพื่อให้ไม่กระทบต่อยอดขายหน้าร้าน วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝากครับ

1.ปรับระบบคิว

เมื่อช่องทางการขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 ทาง ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็มักปรับระบบคิว โดยแยกคิวเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนลูกค้าหน้าร้าน และส่วนลูกค้า Delivery และสลับกันรับออร์เดอร์ เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ที่ไม่แยกคิว มักประสบปัญหาคือ ลูกค้านั่งรอเต็มร้าน แต่เสิร์ฟไม่ได้ซักที เพราะมัวแต่ทำอาหารให้ลูกค้าที่สั่งซื้อกลับบ้าน ลูกค้าในร้านย่อมไม่พอใจ Turn over ก็ลดลง (เพราะลูกค้าต้องนั่งรออาหารในร้านนานขึ้น) ดังนั้นถ้าอยากเพิ่มบริการ Delivery ต้องปรับระบบคิวด้วย

2.ปรับระบบครัว

หลังจากปรับระบบคิวแล้ว ระบบครัวก็ต้องปรับ โดยต้องแยกให้เห็นชัดเจนว่า ออร์เดอร์ไหนเป็นของลูกค้าหน้าร้าน และออร์ไหนเป็นการสั่งกลับบ้าน เพราะไม่อย่างนั้นหากทำผิด นำอาหารใส่กล่อง แทนการใส่จาน ก็ยิ่งเสียเวลาและสิ้นเปลืองต้นทุนเข้าไปใหญ่ และหากมีลูกค้า Delivery มากจริงๆ ก็ควรแยกครัวกันทำงาน เพราะการเสิร์ฟในร้านกับการห่อกลับบ้าน มีรายละเอียดการทำงานต่างกัน ฉะนั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่นขึ้น แยกฝ่ายกันทำน่าจะดีที่สุด

3.ปรับเทคโนโลยี

ร้านอาหารสามารถรับออร์เดอร์ Delivery ได้หลากหลายช่องทาง ทั้งจากสื่อกลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Lineman Wongnai Uber eats ที่รับสั่งอาหารออนไลน์ หรือการรับออร์เดอร์โดยตรงจากลูกค้า จริงๆ แล้วทั้งสองช่องทางสามารถเพิ่มรายได้ที่ดีทั้งคู่ แต่การรับออร์เดอร์จากสื่อกลางจะมีระบบที่ชัดเจนและแม่นยำมากกว่า ไม่ต้องกลัวข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการจดออร์เดอร์ผิด หรือตกหล่น แถมร้านอาหารไม่ต้องเสียกำลังคนในการรับโทรศัพท์ จดรายการอาหารหรือต้องจัดหารถเพื่อส่งสินค้าอีกด้วย ดังนั้นการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ารับออร์เดอร์ผ่านสื่อกลางก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

4.ปรับหีบห่อ

หากอยากให้อาหารที่เราส่งถึงลูกค้าได้มาตรฐานเหมือนรับประทานที่ร้าน ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องหีบห่อ ร้านอาหารควรปรับปรุงให้เหมาะสมกับการขนส่ง เช่น เดิมอาจจะใส่กล่องโฟมหรือถุงพลาสติก ซึ่งกว่าที่อาหารของเราจะถึงมือลูกค้าอาจแตก บุบ รั่ว หรือหากคุณภาพของหับห่อไม่ดีพออาจทำให้คุณภาพอาหารลดลง ลูกค้าย่อมไม่ประทับใจแน่นอน ดังนั้นลองมองหาบรรจุภัณฑ์รูปแบบที่เหมาะสำหรับการบรรจุอาหารกลับบ้าน ซึ่งทุกวันนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ราคาไม่สูงนัก แต่ช่วยสร้างมาตรฐานให้ร้านอาหารได้ดีทีเดียว

5.ปรับการขนส่ง

ข้อสุดท้าย คือเรื่องการขนส่ง ร้านอาหารบ้างร้านอาจใช้การขนส่งโดยการเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นครั้งคราว หรือบางร้านที่มีลูกค้าสั่งอาหาร Delivery จำนวนมาก อาจจ้างพนักงานส่งอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งการทำงานอาจไม่เป็นระบบเท่าที่ควร แถมยังเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันมีธุรกิจบริการรับส่งอาหารมากมาย ซึ่งร้านอาหารสามารถติดต่อเพื่อใช้บริการได้โดยตรง ซึ่งอัตราค่าขนส่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะทางและการตกลงกันระหว่างธุรกิจ

ร้านอาหารไหนอยากเพิ่มบริการ Delivery อย่าลืมทำตามคำแนะนำเหล่านี้นะครับ หวังว่าจะช่วยให้ธุรกิจของเพื่อนๆ มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานมากขึ้น

เรื่องแนะนำ

จัดสต๊อกวัตถุดิบ

มือใหม่ต้องรู้! จัดสต๊อกวัตถุดิบ ฉบับเข้าใจง่าย

วัตถุดิบเป็นต้นทุนที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของร้านอาหาร ซึ่งทุกวัตถุดิบที่สูญเสียไป ถือเป็นต้นทุนที่คุณต้องจ่าย คุณจึงจำเป็นต้องใส่ใจ จัดสต๊อกวัตถุดิบ ห้ามละเลย

Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ

                “เมื่อสินค้าไม่ได้แตกต่าง ลูกค้าจะเปรียบเทียบที่ราคาเสมอ” นั่นเป็นเหตุผลว่าคุณจะต้องทำร้านอาหารให้แตกต่างจากคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง นอกจากการออกแบบสินค้าและบริการ ก็คือ การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ แล้วจะสร้างแบบไหน Go Mass หรือ Go Niche ที่เหมาะสมกับร้านของคุณ บทความนี้มีคำตอบ   >>MASS คืออะไร Niche เป็นแบบไหน ?             การมุ่งตลาด Mass คือ การทำร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม มีความต้องการชัดเจน มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ในขณะที่ Niche คือ การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ มีขนาดตลาดที่แคบลงมา มีผู้เล่นน้อยราย มุ่งการสร้างมูลค่าให้กับสินค้า และสามารถขายสินค้าในระดับราคาที่สูงมากกว่า Mass ยกตัวอย่าง สมัยก่อนร้านอาหารญี่ปุ่นมีความนิยมที่จำกัด เนื่องจากมีราคาสูง นิยมแค่คนไทยที่เคยไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงไปแฝงตัวตามย่านธุรกิจที่มีคนญี่ปุ่นทำงานและใช้ชีวิตอยู่ เช่น สุขุมวิท สีลม จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้าง Niche […]

เช็กลิสต์ QSC ระบบ ประเมินมาตรฐาน ที่ร้านอาหารคุณต้องมี!

หนึ่งในระบบเซตอัพร้านอาหารที่สำคัญ ก็คือการออกแบบเครื่องมือในการ ประเมินมาตรฐาน หรือผลการปฏิบัติงานของร้าน ที่เรียกว่า QSC  ถือเป็นคู่มือที่ใช้ควบคุมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยจะครอบคลุม 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่   เช็กลิสต์ QSC ระบบ ประเมินมาตรฐาน ที่ร้านอาหารคุณต้องมี! Q = Quality การประเมินด้านคุณภาพ เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการเก็บรักษาวัตถุดิบ วิธีการปรุงอาหารและการเสิร์ฟ ทั้งรสชาติ ปริมาณ หน้าตาอาหาร   S =Service การประเมินด้านการบริการ เริ่มตั้งแต่การต้อนรับลูกค้า การแนะนำรายการสินค้า ความเต็มใจบริการ ความสุภาพของพนักงาน ความถูกต้องในการรับรายการอาหาร   C = Cleanliness การประเมินด้านความสะอาด เริ่มประเมินตั้งแต่ การแต่งกายของพนักงาน ความสะอาดของหน้าร้านและหลังร้าน รวมไปถึงการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ครัว   ตัวอย่างการทำ QSC : ร้านกาแฟ มาดูกันว่าการทำ QSC ร้านกาแฟ จะกำหนดให้ควบคุมในเรื่องใดบ้าง ยกตัวอย่างเช็กลิสต์ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.