ขายทั้งกาแฟและเมล็ด Roasted Coffee
คาเฟ่ โมเดล “ทำของกินให้เล่นได้”
ร้าน Nap’s coffee x rama 2
ผู้ที่ลงมือทำทุกโอกาส ก่อนที่ใครจะมองเห็น
.
ในยุคที่ใครก็อยากเปิดร้านกาแฟ หรือที่เรียก ๆ กันว่าคาเฟ่ ทำให้เราสามารถเห็นร้านกาแฟได้ทุก ๆ มุมถนน แต่ละร้านก็ต่างพยายามหาจุดเด่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ตั้งแต่ร้านเล็ก ๆ ไปจนถึงร้านที่มีโรงคั่วเป็นของตัวเองจริงจัง ซึ่งตรงนี้ก็ถือเป็นจุดขายที่สามารถดึงดูดผู้ที่หลงใหลในการเสพกาแฟให้มาลิ้มลองเพราะต้องการความรู้สึกพิเศษที่มากกว่าการไปร้านกาแฟทั่ว ๆ ไป
.
สำหรับใครที่กำลังสนใจการขายเมล็ดกาแฟ ลองมาดูประสบการณ์การขายกาแฟไปพร้อม ๆ กับเมล็ดกาแฟ จากเจ้าของคาเฟ่ตัวจริง! คุณนฤพล วงษ์สุข เจ้าของร้าน Nap’s coffee x rama 2 เพื่อช่วยในการตัดสินใจทำธุรกิจของคุณ!
.ความต้องการทำให้เกิดโอกาส:
เราเปิดร้านกาแฟไปพร้อม ๆ กับการขายเมล็ดกาแฟ เพราะมองว่ามันสามารถทำไปพร้อมกันได้ แต่ถ้าทำคนเดียวก็จะหนักหน่อย เพราะต้องทำงานหน้าร้าน ต้องคุยกับลูกค้า ต้องทำสินค้าแปรรูปให้กับลูกค้าด้วย อีกทั้งต้องผลิตสินค้าที่ลูกค้าอยากจะได้ในแต่ละฟังก์ชั่น สมมติลูกค้าบอกว่าอยากกินกาแฟแบบนี้ เราก็ต้องไปสรรหา และกลับมามองตัวเองว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าทางไหนที่เห็นแล้วว่าเหมาะ เราก็ไปในเวย์นั้น โดยบริหารจัดการในสิ่งที่เรามีอยู่ให้เกิดมูลค่าสูงสุด
.
จุดเริ่มต้นของการหันมาขายเมล็ดกาแฟควบคู่ไปด้วย มาจากการที่ลูกค้าหลายคนชอบถามหาเมล็ดกาแฟแล้วบอกว่าอยากได้ ซึ่งเราก็มองว่ามันเป็นโอกาส ลูกค้าให้โอกาสเราแล้ว เมื่อลูกค้าต้องการแปลว่ายังมีอีกหลายคนที่ต้องการ เหมือนเขากินกาแฟเราแล้วชอบ ก็เลยอยากซื้อ แถมปัจจุบันกาแฟเป็นสิ่งที่คนจับต้องได้ คือเห็นแล้วเข้าใจเลยว่ามันคืออะไร ไม่เหมือนกับการไปร้านอาหาร ที่เราสั่งเมนูหนึ่งกินที่ร้านอร่อยมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าซื้อกลับบ้านมามันจะอร่อยเหมือนกินที่ร้านไหม
.กาแฟเป็นสิ่งจับต้องได้:
กาแฟเป็นเทรนด์ของคนในยุคนี้มาหลายปีแล้ว ตอนนี้เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำกาแฟมันเป็น Homeuse มากขึ้น คนเข้าถึงได้ง่าย มีให้เลือกเยอะก็เลยทำให้คนมีฮาร์ดแวร์คอยซัพพอร์ต ลูกค้าบางคนใช้อุปกรณ์ดีกว่าที่ร้านกาแฟใช้อีก พอเป็นอย่างนี้ลูกค้าหรือคนที่อยู่บ้านช่วงโควิด เขาก็ต้องการแหล่งวัตถุดิบ การที่เรามีเมล็ดแบบ Frozen ขาย พร้อมกับมีวิธีการทำบอก ก็ทำให้เขาสามารถเอาไปทำเองได้ ทีนี้ก็จะทำให้สินค้าเป็นเหมือนกิจกรรม ทำของกินให้มันเล่นได้ แค่นี้มันจบเลย ซึ่งมันเป็นไอเดียที่เราคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต
.แนวโน้มการเติบโต:
ช่วงนี้ยอดขายหน้าร้านเราถือว่าดี ซึ่งดีในที่นี้ คือยอดขายไม่ได้ดรอป ประกอบกับเรามีภาระค่าใช้จ่ายน้อยก็เลยไม่มีปัญหา หลังจากที่เจอโควิดตอนแรกเราคิดว่ามันจะดรอปแต่มันกลับกลายเป็นว่ารอด เราก็เลยถือว่าดีแต่ไม่ใช่ว่าเติบโตขนาดนั้น แต่ก็ไม่น้อยลง ส่วนยอดขายเมล็ดกาแฟก็โตเรื่อย ๆ เว้นแต่พอเจอโควิดก็ทำให้ซัพพลายมันไม่โต เพราะปกติลูกค้าที่ซื้อจะเป็นซัพพลายเออร์ เมื่อร้านอื่นขายไม่ได้เขาก็เลยไม่ได้ซื้อ
.
จากประสบการณ์ระหว่างการขายกาแฟกับขายเมล็ดกาแฟ เราคิดว่าการขายหน้าร้านก็เหมือนขายทิ้ง เพราะยังไงเราก็ต้องชิม ถ้ากินแล้วไม่ถูกใจก็ไม่ต้องหวังเลยว่าจะไปต่อตัวอื่น ฉะนั้นต้องให้ได้ตัวแรกก่อน ถ้าวันนึง Branding ของกาแฟตัวแรกไปแล้ว ไม่ว่าของอะไรก็ขายได้เพราะว่า Branding ไปแล้ว ดังนั้นหน้าร้านแทบจะไม่มีผล บางทียังไม่ได้ชิมคนก็ซื้อ แต่ถ้า Branding ยังไม่ได้ยังไงสัดส่วนหน้าร้านก็ต้องมากกว่าเพราะว่าเรายังไม่มีลูกค้าหรือว่าฐานแฟนคลับ
.
ในอนาคตเราคิดว่าจะต่อยอดในเรื่องของการคั่วเมล็ดกาแฟโดยการเปิดเทรนนิ่ง ซึ่งทุกวันนี้ก็ทำอยู่แต่ทำเป็น private ทำซ้อม สอนเด็กสอนคนรู้จัก เอาสิ่งที่เราเป็นมาทำให้เกิด out put ที่เป็นมูลค่า สำหรับเราแล้วความสำเร็จก้าวหนึ่งก็คือการที่ลูกค้าซื้อซ้ำ ลูกค้าไม่หนีไปไหน และลูกค้าไม่เปลี่ยนใจ ซึ่งพฤติกรรมลูกค้าจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะพัฒนาสินค้าไปทางไหน และคำว่า Touch หรือความไว้ใจก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของเรา
ร้านกาแฟมีอยู่เต็มไปหมด ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบควรคิดก็คือจะทำยังไงเพื่อจูงใจหรือดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อร้านเรา และด้วยเหตุผลอะไร ในเมื่อสินค้าแต่ละร้านก็คือสินค้าประเภทเดียวกัน เป็นลักษณะของเครื่องดื่มที่ให้ energy ให้พลังงานเหมือน ๆ กัน ถ้าคิดออกคุณจะไม่ต้องมากังวลเรื่องการแย่งฐานลูกค้ากันเลย