“ ไมเนอร์ ” ทุ่ม 2 พันล้าน ซื้อกิจการไก่ทอด “ บอนชอน ” ในไทย

“ ไมเนอร์ ” ทุ่ม 2 พันล้าน ซื้อกิจการไก่ทอด “ บอนชอน ” ในไทย

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT  ประกาศเข้าลงทุนใน บริษัท ชิคเก้น ไทม์ จำกัด ประเทศไทย (ชิคเก้น ไทม์) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารชื่อดังภายใต้แบรนด์ไก่ทอด บอนชอน กว่า 40 สาขา ในประเทศไทย ด้วยการลงทุนในสัดส่วน 100% ใน ชิคเก้น ไทม์ โดยเม็ดเงินลงทุนในครั้งนี้เป็นจำนวนถึง 2 พันล้านบาท

 

“ ไมเนอร์ ” ทุ่ม 2 พันล้าน ซื้อกิจการไก่ทอด “ บอนชอน ” ในไทย

การลงทุนของ ไมเนอร์ ในครั้งนี้ นายวิลเลียม เอลล์วูด ไฮเน็คกี ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของ MINT เล็งเห็นว่า ไก่เป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่คนไทยให้ความนิยมรับประทานมากที่สุด และตลาดไก่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก ซึ่งจากการที่ใช้เวลาในการค้นหาแบรนด์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยเสริมสร้างเครือร้านอาหารของไมเนอร์ ก็พบว่า บอนชอนมีความเหมาะสมเป็นอย่างมากกับแบรนด์ที่มีอยู่ในการเป็นร้านอาหารแบบนั่งทาน

เนื่องด้วยแบรนด์ บอนชอน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 ในประเทศเกาหลีและในปัจจุบันเป็นแบรนด์ร้านอาหารเกาหลีและไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก ด้วยความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ ของอาหารเอเชียสไตล์ฟิวชั่นที่ไม่เหมือนใคร และทำให้ลูกค้าภักดีต่อแบรนด์ได้ ส่งผลให้บอนชอนขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา  บาห์เรน คูเวต ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา และไทยซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในไทยเมื่อปี 2554

 

และในขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มแบรนด์ของไมเนอร์ อีกทั้งการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับไมเนอร์ฟู้ด ในฐานะผู้นำในการดำเนินการธุรกิจร้านอาหาร

นอกจากนี้ประธาน MINT ยังชี้แจงว่า เครือร้านอาหารบอนชอนในประเทศไทยจะสร้างรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทในทันที ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น และเชื่อว่าประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มทางธุรกิจที่ดีในระยะยาว จากการเติบโตของชนชั้นกลางและรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น ประสบการณ์ที่แข็งแกร่งของบริษัทถึงสี่ทศวรรษ และฐานการดำเนินงานที่มั่นคงในประเทศไทย จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนในครั้งนี้ให้กับผู้ถือหุ้นอีกด้วย

 

ทั้งนี้ถึงแม้ว่าการลงทุนดังกล่าวจะไม่รวมสิทธิแฟรนไชส์ในการเปิดสาขาใหม่ แต่ MINT อยู่ในระหว่างการเจรจากับเจ้าของสิทธิแฟรนไชส์หลัก ในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้ MINT มีสิทธิในการขยายสาขาบอนชอนทั่วประเทศต่อไป

 


 

                     การทำร้านอาหาร ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่เจ้าของร้านควรรู้ ดังนั้น ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง กับงานใหญ่ส่งท้ายปี  Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  งานครบรอบ 3 ปีของ Amarin Academy กับการรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 150 ร้าน พร้อมโอกาสการสร้าง Connection กับร้านชื่อดังต่างๆมากมาย อีกทั้งยังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแขนงที่จะมาอัพเดทเทรนด์ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า / งานดีไซน์ร้านสุดเจ๋ง / กลยุทธ์เรียกลูกค้าเข้าร้านสไตส์ Influencer ชื่อดัง ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมพูดคุยกับเหล่ากูรูและเจ้าของร้านผู้มากประสบการณ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งงานจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562

 

สมัครเข้าร่วมงาน Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  คลิก!!

Amarin Academy

 

ข้อมูล : mint.

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

ถอดบทเรียน “ หม้อเบ้อเร่อ “ พลิกวิกฤติร้านเกือบเจ๊ง ให้กลับมาอยู่รอดอีกครั้ง

หมัดเด็ด Hai di lao หม้อไฟสัญชาติจีน สู่การเป็นร้านอาหารระดับโลก

กสิกรไทย เพิ่มการปล่อยสินเชื่อธุรกิจ ตั้งเป้าปี63 สินเชื่อเติบโต 4-6 %

MAJI Curry ข้าวแกงกะหรีี่จากญี่ปุ่น ดึงจุดแข็งดีกรีแชมป์เรียกลูกค้าคนไทย

สไปร์ท เปลี่ยนขวดสี เป็นขวดใส ผลักดันการรีไซเคิลพลาสติกครั้งสำคัญ

เรื่องแนะนำ

In Home Delivery

Walmart เปิดตัวบริการ In Home Delivery ให้พนักงานนำสินค้าเติมให้ถึงตู้เย็น

วงการเดลิเวอรี่ เริ่มจะมีสีสันขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่ะ เมื่อ Walmart ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมลูกค้าในยุคนี้มากขึ้นด้วยการเปิดตัวบริการ In Home Delivery  บริการจัดส่งสินค้าที่ลูกค้าสามารถสั่งให้พนักงานนำสินค้ามาเติมให้ที่ตู้เย็นโดยตรงแม้คุณจะไม่ได้อยู่บ้าน เรียกว่าเอาใจลูกค้าที่รักความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ แล้วมีขั้นตอนการจัดส่งอย่างไรบ้าง?   ขั้นตอนการให้บริการ In Home Delivery บริการ In Home Delivery เริ่มแรกผู้ที่จะใช้บริการจะต้องสมัครสมาชิกบริการจัดส่ง In Home เริ่มต้นที่ 19.95 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (ราว 600 บาท) และผู้ซื้อจะต้องซื้อสินค้ามูลค่าอย่างน้อย 30 เหรียญต่อครั้ง สามารถสั่งซื้อการจัดส่งได้บ่อยเท่าที่ต้องการแบบไม่จำกัดความถี่ ขณะที่ระบบล็อกบ้านอัจฉริยะหรือ smart-lock ราคา 49.95 เหรียญสหรัฐ (ราว 1,500 บาท) ติดตั้งให้ฟรี เมื่อเป็นสมาชิกแล้ว มีการสั่งซื้อสินค้า จากนั้นพนักงานจะส่งสินค้าไปให้ถึงในห้องครัวหรือส่วนอื่นๆ ของบ้านลูกค้า   ความปลอดภัยในการให้บริการ หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วเรื่องของความปลอดภัย จะปลอดภัยหรือไม่ หากต้องให้คนแปลกหน้าเข้ามาส่งของถึงภายในบ้าน หรือความปลอดภัยของสินค้าในขั้นตอนการจัดส่งจะเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ใช้บริการนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยค่ะ […]

ปรับตัววิกฤติโควิด-19 สู่การช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai Organic Platform

“เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่เราทำได้” ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เพราะวิกฤติการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ใครหลายคนต้องอยู่บ้าน พฤติกรรมการบริโภคจึงเปลี่ยนไป ความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลัก หลายๆ คนต่างต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ให้ได้ เช่นเดียวกับเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้เช่นกัน จากการที่ลูกค้าประจำที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร จำเป็นต้องยกเลิกออเดอร์ ทางสามพรานโมเดลจึงได้ริเริ่มนำเครื่องมือ Thai Organic Platform ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  (สนช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มาใช้เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงและซื้อขายสินค้าอินทรีย์ตรงจากกลุ่มเกษตรกรได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยเริ่มเปิดรับพรีออเดอร์ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตัวอย่างหน้าตาแอปพลิเคชั่น   ทางเราไม่รอช้า เมื่อสบโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน และผู้ริเริ่มสามพรานโมเดล จึงอยากจะมาเล่าถึงการปรับตัววิกฤติโควิด-19  และความคืบหน้าการเปิดใช้แอปพลิเคชัน Thai Organic Platform ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ แพลตฟอร์มขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ร่วมกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 “สังคมอินทรีย์เราเน้นเรื่องการเชื่อมโยงห่วงโซ่ ตั้งแต่ผู้ผลิตคือเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร และผู้บริโภคคือลูกค้า เหมือนเราเป็นตัวกลางเชื่อมให้ห่วงโซ่ทั้งหมดมาเจอกัน พอมีวิกฤติอย่างนี้เกิดขึ้น เราเป็นสังคมเดียวกัน […]

งานหนักไม่เคยฆ่าใคร แต่ฉันปวดหลัง! “พาราเซตามอล” ตัวช่วย “ลดสารพัดปวด” ของชาวออฟฟิศ

งานหนักไม่เคยฆ่าใคร แต่ฉันปวดหลัง! “พาราเซตามอล” ตัวช่วย “ลดสารพัดปวด” ของชาวออฟฟิศ   งานหนักไม่เคยฆ่าใคร แต่ฉันปวดหลัง! ปฏิเสธไม่ได้ว่าโรคยอดฮิตของคนวัยทำงานทุกวันนี้ ก็คือ “ออฟฟิศซินโดรม” ที่มาพร้อมกับอาการ “ปวด” ตั้งแต่ต้นคอ บ่า ไหล่ หลัง ไปจนถึงปวดร้าวศีรษะ อันมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งแอดก็เป็นหนึ่งในชาวออฟฟิศผู้โชคร้ายคนนั้น ที่ต้องเผชิญกับอาการปวดทั้ง คอ บ่า ไหล่ และเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เผชิญกับอาการเหล่านี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งการบรรเทารักษาอาการปวดเหล่านี้ในเบื้องต้น ก่อนที่จะหาเวลาลางานไปพบแพทย์แบบจริงจัง ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการบริโภคยากลุ่มพาราเซตามอล  ที่เรารู้จักกันดีก็เช่น ไทลินอล ที่นอกจากจะสามารถบรรเทาอาการปวดหัว ลดไข้ได้แล้ว ก็ยังสามารถบรรเทาอาการปวดอื่น ๆ ได้ด้วย ทั้งปวดฟัน ปวดข้อต่อ ปวดท้องประจำเดือน ไปจนถึงบรรเทาอาการปวดจากภาวะออฟฟิศซินโดรม ไม่ว่าจะเป็น ระบมไปทั้งคอ บ่า ไหล่ เพราะนั่งปั่นงานทั้งวัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เช่น ต้นคอ ไหล่ สะบัก […]

มาตรการเยียวยา

นายจ้างที่ได้รับความช่วยเหลือมีแค่ 11% ส่องสถิติการเข้าถึง มาตรการเยียวยา จากภาครัฐ

        แม้ว่าวิกฤต COVID-19 จะกระทบต่อประชาชนคนไทยทุกคน แต่ มาตรการเยียวยา ของภาครัฐนั้นเข้าถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทั่วถึงหรือไม่? เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จึงได้ทำการสำรวจ ผลกระทบเบื้องต้นจากการใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 ผ่านระบบ online ในช่วงวันที่ 9-13 เม.ย. 63 โดยมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 8,929 คน จากทั้ง 77 จังหวัดในประเทศไทย  สถิติประชาชน 4 กลุ่มอาชีพ ที่เข้าถึง มาตรการเยียวยา จากภาครัฐ         โดยผู้ตอบแบบสอบถามจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ นายจ้าง พนักงาน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ว่างงาน ในภาพรวมแล้ว มีคนไทยมากถึง 88% ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการของรัฐ เพราะส่วนใหญ่ “ติดเงื่อนไข” ซึ่งมีทั้งผู้ที่ไม่เข้าข่าย และผู้ที่ควรได้รับสิทธิ์แต่ถูกปฏิเสธ โดยมาตรการที่คนได้รับมากที่สุดเป็นมาตรการของนโยบายการคลัง แต่มาตรการเหล่านี้ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.