จดทะเบียนบริษัท ร้านอาหารต้องรู้อะไรบ้าง ? - Amarin Academy

จดทะเบียนบริษัท ร้านอาหารต้องรู้อะไรบ้าง ?

จดทะเบียนบริษัท ร้านอาหารต้องรู้อะไรบ้าง ?

ถ้าให้เจ้าของร้านอาหารเล่าให้ฟังว่าตอนวันแรกๆ ที่เปิดร้าน ต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ผมว่าคงเล่าได้เป็นวันๆ เลยใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องลูกน้อง การหมุนเงิน การซื้อวัตถุดิบ หรือยอดขายไม่มากพอ ฯลฯ มีแต่ปัญหาชวนปวดหัวทั้งนั้น แต่วันนี้ ผมอยากมาชวนให้คิดถึง Good problem หรือปัญหาที่เมื่อเกิดขึ้น แสดงว่าธุรกิจกำลังไปได้ดีกันบ้าง และหนึ่งในปัญหานั้นคือ “จะทำธุรกิจในนามบุคคลแบบนี้ต่อไป หรือจะ จดทะเบียนบริษัท ดีกว่ากัน?”

หลายคนเริ่มต้นจากการขายอาหารในนามบุคคลธรรมดา คำอาจจะดูงงๆ นิดหน่อย พูดง่ายๆ ก็คือเวลารับเงิน หรือออกเอกสารพวกใบเสร็จต่างๆ ให้ลูกค้า เราก็ใช้ชื่อ – นามสกุลเรานี่แหละ

ข้อดีก็คือ ได้ความคล่องตัวและไม่มีขั้นตอนซับซ้อน เช่น การทำบัญชีก็บันทึกง่ายๆ แบบรายรับ/รายจ่าย ไม่ต้องจัดทำงบการเงินเพื่อนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและลดจำนวนแบบฟอร์มทางภาษีที่ต้องยื่นระหว่างเดือน

ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมเมื่อธุรกิจเติบโตถึงจุดหนึ่ง คนส่วนมากถึงหันมาจดทะเบียนบริษัทกันล่ะ?

“เพราะว่าบริษัทเสียภาษี น้อยกว่าบุคคลธรรมดา”

อ่านถึงประโยคนี้แล้วอย่าเพิ่งรีบวิ่งไปจดทะเบียนบริษัทนะครับ แนะนำให้อ่านต่ออีกนิด เพื่อประกอบการตัดสินใจ

“ก่อนตัดสินใจ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?”

1.พิจารณาค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายเพิ่มว่าคุ้มค่าหรือไม่

ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชี

  • ค่าจดทะเบียนบริษัท ขั้นตอนนี้หากทำเอกสารไปยื่นเอง ค่าธรรมเนียมที่ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเก็บก็จะอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาท สำหรับทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่หากรู้สึกว่าทนความซับซ้อนของการกรอกเอกสารทั้งหลายไม่ไหว บริษัทบัญชีหลายแห่งก็รับทำให้ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกประมาณ 3,000-5,000 บาท
  • ค่าจ้างพนักงานบัญชี (เป็นพนักงานประจำ) หรือจะจ้างสำนักงานบัญชีทำบัญชีเป็นรายเดือนก็ได้ ค่าใช้จ่ายมากน้อยขึ้นอยู่กับประเภท และขนาดของธุรกิจ
  • ค่าจัดทำงบการเงินตอนสิ้นปีและค่าผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเพื่อเซ็นรับรองความถูกต้องของงบการเงิน (ปีละครั้ง) โดยเท่าที่เห็นมาคร่าวๆ สำหรับกิจการที่เติบโตจะมีค่าใช้จ่ายก้อนนี้ประมาณตั้งแต่ 20,000 ขึ้นไปต่อปี  (อันนี้ไม่นับบริษัทที่จดขึ้นมาแล้วทิ้งไว้เฉยๆ นะครับ แล้วก็ขึ้นกับสำนักงานบัญชีแต่ละที่ด้วย)

2.มองหาผู้ร่วมอุดมการณ์เพิ่มได้หรือยัง

เพราะการจดทะเบียนบริษัทยังคงต้องมีผู้ถือหุ้นบริษัทอย่างน้อย 3 คน แต่ละคนจะมากจะน้อยก็ได้ หรือมีหุ้นเดียวก็ได้

3.พร้อมรับมือกับความยุ่งยากเรื่องเอกสารหรือไม่

ตั้งแต่ขั้นตอนเอกสารต่างๆ จนถึงการยื่นแบบทางภาษีที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน เช่น การออกใบหัก ณ ที่จ่าย การยื่นแบบ ภงด.3 (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หากเรามีการจ่ายเงินที่เป็นค่าบริการให้กับบุคคลอื่น) หรือ ยื่นแบบ ภงด.53 (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หากเรามีการจ่ายเงินที่เป็นค่าบริการให้กับบริษัทหรือนิติบุคคลอื่น)

ถ้าไม่จ้างคนทำบัญชี ก็ต้องจดต้องจำให้ดีเลยนะครับ เพราะหากเลยกำหนดหรือยื่นไม่ครบ ก็อาจจะมีค่าปรับจากการที่เราความจำไม่ค่อยดีด้วย

3.พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้การบันทึกบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีหรือไม่

พอเปลี่ยนมาเป็นบริษัท การทำบัญชีก็จะต้องเป็นไปตามหลักการต่างๆ เช่น จากปกติเวลาเราซื้อของก็บันทึกเป็นค่าใช้จ่าย พอจดบริษัทปุ๊บ ก็ต้องจดว่าเป็นสินทรัพย์คอยตัดค่าเสื่อมแต่ละปี ตามจำนวนปีที่กำหนด หลายคนรู้สึกขัดออกขัดใจ เพราะต้องเก็บข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน อันนี้ต้องเตรียมใจไว้ด้วยนะครับ

4.รายได้มากถึงจุดที่คุ้มที่จะเปลี่ยนไปทำธุรกิจในนามบริษัทหรือยัง?

ข้อสุดท้ายแต่น่าจะสำคัญที่สุดคือ  ข้อนี้แล้วแต่กิจการเลยจริงๆครับ เพราะความสามารถในการทำรายได้ และจำนวนค่าใช้จ่ายแต่ละธุรกิจก็แตกต่างกันไป แต่ก็แนะนำให้ประมาณการคร่าวๆ ไว้ล่วงหน้าเพื่อวางแผนและเตรียมตัวนะครับ

การคำนวณหากใครรู้หลักการคร่าวๆ ก็คำนวนเองได้เลยครับ แต่หากใครรู้สึกว่าเจอตัวเลขทีไรงงทุกที ผมก็มีลิงก์ดีๆ ของ itax ที่ช่วยเปรียบเทียบค่าภาษีระหว่าง บุคคลธรรมดา กับ บริษัทให้กับร้านอาหาร/เครื่องดื่มมาแชร์ครับ ลองคำนวณดูว่าร้านเราพร้อมหรือยัง? คลิก เปรียบเทียบภาษี

ความเห็นจาก ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน

จริงๆ แล้ว การจ่ายภาษีน้อยลงไม่ใช่ข้อดีข้อเดียวของการจดบริษัทหรอกนะครับ ถึงแม้จะยุ่งยากนิดหน่อย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การจดบริษัทช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเรา ในสายตาของคู่ค้าที่เราทำธุรกิจด้วย เนื่องจากเป็นการบันทึกบัญชีตามหลักมาตรฐาน และมีคนภายนอกคอยตรวจสอบความถูกต้อง

แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น คือตัวเลขผลการดำเนินงานที่ได้ ช่วยสะท้อนให้เราเห็นภาพธุรกิจที่ถูกต้อง ช่วยให้เราจัดการธุรกิจของเราได้ดีขึ้น ง่ายต่อการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีกด้วย รวมทั้งไม่ต้องคอยหลบเลี่ยงภาษี (เพราะยอดที่ต้องจ่ายมันสูงซะเหลือเกิน) ที่จะตามมาด้วยปัญหาน่าปวดหัวในภายหลัง

เรื่องแนะนำ

พนักงานบริการผิดพลาด

วิธีรับมือเมื่อ พนักงานบริการผิดพลาด

เราไม่ได้กำลังทำธุรกิจอาหาร แต่เรากำลังทำธุรกิจบริการผ่านอาหาร ซึ่งจะหลีกเลี่ยงการปะทะกับลูกค้าไม่ได้เลย เราจึงมี วิธีรับมือเมื่อ พนักงานบริการผิดพลาด มาฝาก

ยอดเดลิเวอรี่ดี๊ดี แต่ทำไมร้านขาดทุน!!!

คนส่วนใหญ่ใช้งาน Social Media และพวกเขาค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ใน Facebook โดยเฉพาะข้อมูลร้านอาหาร ถ้าหากคุณยังไม่ได้เริ่มทำ หรือ Facebook ร้านของคุณยังเงียบ นี่คือ 4 เคล็ดลับ ที่จะพัฒนาให้คุณเป็นโปรการตลาด Facebook ได้โดยง่าย     1.อะไรคือ Key Selling point ที่โดนใจลูกค้า             ไม่ใช่เพียงแค่การมีจุดขาย แต่จุดขายที่ดีจะต้องแตกต่างและสามารถโดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ การทำความเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ยังมีส่วนสำคัญต่อการกำหนด Keyword ในการทำแคมเปญโฆษณา สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ   2.Value Content ที่รักษาลูกค้าไม่ให้ไปไหน คนทั่วไปเลือกที่จะฟังสิ่งที่ตรงกับปัญหาที่เขามีอยู่ มีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจถ้าหากว่าสิ่งนั้นทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ดีขึ้น และที่สำคัญตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตในขณะนั้น ซึ่งนำมาปรับใช้กับการสร้าง  Content ที่มีคุณค่าต่อลูกค้าได้ Content ที่มีประสิทธิภาพควรสร้าง Engagement ระหว่างลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง การให้ความสำคัญกับเรื่องราวที่ใกล้ตัว รวมถึงการวิเคราะห์ให้ได้ว่าคุณค่าอะไรที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ความสำคัญบ้าง รวมถึงคาดการณ์ความต้องการที่จะเกิดขึ้น เป็นการทำให้ลูกค้าใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ร้านของคุณได้สื่อสารออกไป    3.Photo Content ที่ดึงดูดใจ […]

มือใหม่เปิดร้านอาหาร …สร้างจุดขายในโลกออนไลน์อย่างไรให้ปัง!

หากคุณเปิดร้านอาหาร และต้องการทำตลาดออนไลน์ให้สำเร็จ ก็ต้องเริ่มต้นสร้างตัวตนในใจลูกค้าให้ได้ก่อน ร้านค้าเกือบทุกร้านใช้วิธีการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และแข่งกันด้วยการทำ Content Marketing จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ร้านของคุณจะสามารถเป็นหนึ่งในร้านที่ลูกค้าเลือก มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจ และนำไปปรับใช้กับร้านของคุณได้บ้างสำหรับ มือใหม่เปิดร้านอาหาร  มือใหม่เปิดร้านอาหาร …สร้างจุดขายในโลกออนไลน์อย่างไรให้ปัง! ทำให้….เหนือความคาดหมาย การสื่อสารที่ดีอย่างเหนือความคาดหมาย จะทำให้ลูกค้าจดจำคุณได้เพียงข้ามคืน  ยกตัวอย่างร้านอาหารเรือนจรุง ร้านอาหารไทยในจังหวัดอยุธยา สามารถรับลูกค้าได้เพียงโต๊ะเดียว การที่ลูกค้าจดจำว่าเป็นร้านที่จองยาก เป็นจุดขายที่แตกต่างก็จริง แต่ก็อาจจะทำให้ลูกค้าปัจจุบันที่ชอบความสะดวก ไม่ชอบรอนานจนถอดใจ แต่ร้านนำตรงนี้มาเป็นจุดแข็ง โดยกำหนดให้ลูกค้าอยากจะกินจริง ๆ เขียนจดหมายมาเพื่อบอกเหตุผลว่าทำไมถึงควรได้คิวที่ร้านไป การเขียนจดหมายเป็นรูปแบบวิธีการสื่อสารแบบเดิมขัดกับพฤติกรรมคนปัจจุบัน เป็นวิธีการที่เหนือความคาดหมาย แต่ยังสามารถบอกตัวตนของร้านที่เน้นการอาหารตำรับไทย ปรุงด้วยกรรมวิธีแบบเดิม ๆ อีกด้วย เห็นได้ว่า การทำให้เกิดการแชร์ Content เป็นเรื่องยากในปัจจุบัน แต่คนแชร์ที่เรื่องราวเหล่านี้ออกไปเพราะอยากแชร์ โดยไม่คำนึงว่ากำลังโฆษณาให้กับร้านนี้เลย จึงทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น   ทำให้รู้… Right Time Right Target           การสื่อสารว่าคุณเป็นร้านอาหารที่สามารถตอบความต้องการของลูกค้าในเรื่องรสชาติและบริการเป็นการสื่อสารกับลูกค้าทั่วไปที่อยากกินอาหารอยู่แล้ว มันจึงไม่เพียงพอ  การศึกษาความต้องการเชิงลึกของลูกค้าให้ได้ รู้ว่าลูกค้ามีปัญหาอะไร อยากได้อะไร และสามารถนำเสนอมันได้อย่างถูกเวลา จะทำให้ลูกค้าจดจำร้านของคุณได้มากกว่า เช่น ร้านอาจจะพบว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นหัวหน้าครอบครัว […]

4 วิธีสร้างยอดขายอย่างเร่งด่วน! By อ.เกียรติศักดิ์

4 วิธีสร้างยอดขายอย่างเร่งด่วน! By อ.เกียรติศักดิ์ เราเคยสังเกตกันไหม ว่าเวลาที่เราเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเราจะเห็นบรรดาร้านอาหารต่างๆ มีป้ายโปรโมชั่นติดอยู่หน้าร้านเกือบแทบจะทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 โปรโมชั่นลดราคา หรือแนะนำสินค้าใหม่ เราเคยหยุดคิดและสังเกตด้วยหรือเปล่าว่าโปรโมชั่นอันไหนโดนใจและประสบความสำเร็จมากที่สุด​ มีเพียงไม่กี่ร้านหรอกครับที่ประสบความสำเร็จดังที่ต้องการ​ เพราะว่าเขาเข้าใจลูกค้า​ และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำโปรโมขั่น​ รู้ว่าตัวเองจะทำโปรโมขั่นแบบไหน​ กลุ่มลูกค้าเป็นแบบใด ​การทำโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขายนั้นบางครั้งอาจไม่ได้สร้างยอดขายเท่าไร ​แต่กลับสร้างผลกำไรให้กับร้านได้อย่างดีขึ้น​ เพราะเจ้าของร้านเรียนรู้จากสัดส่วนการขายของสินค้าหรือต้นทุนอาหารและนำเอามาจัดโปรโมชั่น​ให้ประสบผลสำเร็จได้มากขึ้น… ลองมาดูหลักการง่ายๆดังนี้ครับ 1.​รู้จักกลุ่มลูกค้าของเราอย่างแท้จริง​ ลูกค้าของร้านเราคือใคร​ ทำงานอะไร ​ เป็นนักเรียน นักศึกษา​ คนรักสุขภาพ​ สนใจอะไร แต่งตัวยังไง ไลฟ์สไตล์เป็นแบบไหน ​ หรือมากันทั้งครอบครัว การมาใช้บริการแต่ละครั้งชอบสั่งอะไร ราคาเท่าไร ทานที่ร้าน หรือสั่งกลับบ้าน ทั้งหมดจะเป็นข้อมูลสำหรับการเริ่มทำโปรโมชั่น หากเราสามารถระบุเจาะจงและทำได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ผลลัพธ์ที่ตามมาต้องดีอย่างแน่นอน 2.​ การออกเมนูอาหารใหม่ การออกเมนูใหม่ๆ ก็สามารถสร้างยอดขายได้ โดยเจาะเข้ากลุ่มลูกค้่าเดิมของเรา และบางครั้งก็สามารถดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆให้เข้าร้านเราได้เช่นกัน แต่การออกเมนูใหม่แต่ละครั้งต้องคำนึงเรื่องต้นทุน เพื่อให้เมนูใหม่ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อการสร้างค่าเฉลี่ยต่อบิลให้มากขึ้น​ แต่กลับทำให้รายได้ของร้านเพิ่มขึ้นด้วย เช่น จากเดิมร้านขายเครื่องดื่มชงพวกกาแฟ โกโก้ อาจเพิ่มเมนูผลไม้เพื่อสุขภาพ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.