เช็ค 10 พฤติกรรมพนักงานบริการ ที่ร้านอาหารควรปรับปรุง - Amarin Academy

เช็ค 10 พฤติกรรมพนักงานบริการ ที่ร้านอาหารควรปรับปรุง

เช็ค 10 พฤติกรรมพนักงานบริการ ที่ร้านอาหารควรปรับปรุง

พนักงานบริการถือว่ามีความสำคัญต่อร้านอาหารมาก เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ และตัดสินใจกลับมาใช้บริการอีกครั้ง หรือเข็ดขยาดไม่ย่างเท้าเข้าร้านอีกเลยก็ได้ ฉะนั้นทางที่ดีมาเช็ค พฤติกรรมพนักงานบริการ ของร้านเราดีกว่า ว่าเข้าข่ายต้องรีบปรับปรุงหรือเปล่า

1.หน้าตาบูดบึ้ง ไม่เต็มใจบริการ

ถ้าก้าวขาเข้าร้านแล้วเจอพนักงานยืนหน้าบูดอยู่ เป็นใครก็ขอบาย เพราะแทนที่เราจะมีความสุขกับการกินอาหารแสนอร่อยอย่างเต็มที่ กลับต้องมาเสียอารมณ์กับพนักงานที่ไม่เต็มใจบริการ นอกจากหน้าตาไม่ยิ้มแย้มแล้ว ยังรวมถึงการใช้คำพูดและน้ำเสียงไม่เหมาะสมด้วย หากพนักงานพูดจาห้วนๆ เหมือนมะนาวไม่มีน้ำ ลูกค้าทุกคนก็คงเซ็งไปตามๆ กัน ฉะนั้นข้อนี้จึงเป็นสิ่งแรกที่เจ้าของร้านอาหารควรคำนึงถึง

ทั้งนี้ก่อนเปิดร้านอาหารหรือรับพนักงานคนใหม่ เจ้าของร้านต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่า ร้านอาหารก็เหมือนบ้านของเขาเอง ลูกค้าก็เหมือนเพื่อนที่มาเยี่ยมบ้าน ให้เขาบริการด้วยความรักและความจริงใจ วิธีนี้อาจจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเองมากขึ้น และส่งผลต่อพฤติกรรมที่ดีขึ้นตามไปด้วย

2.บริการช้าเป็นเต่าคลาน

เวลาเข้าร้านอาหารสิ่งที่เราคาดหวัง คือการบริการที่รวดเร็ว ไม่ถึงกับต้องเรียกปุ๊บ ทิ้งทุกอย่างตรงหน้าแล้ววิ่งมาปั๊บ แต่ไม่ควรปล่อยให้ลูกค้ารอเกิน 1 นาที เพราะอาจทำให้เขารู้สึกว่าเราไม่ใส่ใจ อีกสิ่งสำคัญคือ เมื่อเสิร์ฟอาหารเรียบร้อยแล้วต้องคอยสังเกตว่าเขาต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า เช่น พริกไทย ช้อนกลาง กระดาษทิชชู่ หรือซอส เพราะหากเขาต้องเรียกแล้วเรียกอีก ซ้ำไปซ้ำมา พนักงานไม่มาหาสักที ลูกค้าก็ต้องอารมณ์เสียเป็นธรรมดา

3.ยืนเม้าท์ไม่ใส่ใจ

ข้อนี้นอกจากจะทำให้บริการล่าช้าแล้ว (เพราะมัวแต่คุย ไม่สนใจว่าโต๊ะใดต้องการความช่วยเหลือ) ยังอาจทำให้ลูกค้าหงุดหงิดขึ้นเป็นทวีคูณ  เพราะต้องมานั่งฟังเรื่องราวซุบซิบนินทา ทำให้บรรยากาศการกินอาหารกร่อยลง เจ้าของร้านต้องคำนึงเสมอว่าลูกค้าเสียเงินเข้าร้านอาหาร ก็หวังว่าต้องได้กินอาหารรสชาติถูกปาก บรรยากาศถูกใจ และการบริการที่ดีเป็นพื้นฐาน ฉะนั้นจะต้องทำให้พนักงานเข้าใจในจุดนี้เช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นลูกค้าอาจจะเอือมระอาและไม่กลับมาใช้บริการอีกก็เป็นได้

4.ขี้ลืมเป็นที่หนึ่ง

เคยเข้าร้านอาหารแล้วพนักงานลืมเสิร์ฟนั่นนี่ จนเราต้องขอหลายๆ ครั้งไหม เสิร์ฟสเต็กแต่ลืมมีด เสิร์ฟซุปแต่ลืมช้อน นี่เป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าบ่อยเข้าลูกค้าก็อาจเคืองได้ เพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมของร้านอาหาร แทนที่เขาจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารจานนั้นแบบสดใหม่ กลับต้องมารอว่าเมื่อไหร่พนักงานจะมาเสิร์ฟสิ่งที่ร้องขอเสียที ทางที่ดีควรจัดอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนนำมาเสิร์ฟ แต่หากผิดพลาดจริงๆ ต้องกระตือรือร้นที่จะนำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าโดยเร็วที่สุด

5.ล้วง แคะ แกะ เกา

ความสะอาดสำหรับร้านอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าระหว่างรับออร์เดอร์แล้วพนักงานล้วง แคะ แกะ เกา อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายใจ (ขนาดต่อหน้ายังขนาดนี้ หลังครัวจะเป็นอย่างไรเนี่ย!) เพราะมือของพนักงานบริการต้องสัมผัส ช้อนส้อม มีด จานอาหาร กระดาษทิชชู ฯลฯ เพื่อเสิร์ฟให้ลูกค้าเป็นประจำ หากมือคอยแต่จะเกานู่นแกะนี่ อาจทำให้ลูกค้าหมดอร่อยกับอาหารมื้อนั้นทันที

6.ใช้มือสัมผัสปากแก้ว

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบางครั้งพนักงานบริการอาจไม่ได้คำนึงถึงข้อนี้มากนัก แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจสังเกตเห็น  เนื่องจากปากแกวคือจุดที่ปากของลูกค้าต้องสัมผัสโดยตรง (รองจากช้อน) หากมีรอยนิ้วมือติดก็คงไม่ดีแน่ ทางที่ดี เจ้าของร้านควรเทรนด์พนักงานว่าการเติมน้ำจะต้องจับที่ส่วนกลางหรือก้นแก้วเท่านั้น เพื่อความสะอาดถูกหลักอนามัยและความสบายใจของลูกค้า

7.ไม่มีบริการเติมน้ำ

สำหรับร้านอาหารที่เน้นบริการตนเอง ข้อนี้อาจไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับร้านอาหารที่เน้นการบริการของพนักงานเป็นหลัก ถือเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งถ้าลูกค้าจ่ายเงินค่าน้ำในราคา Refill เติมได้ไม่อั้น ยิ่งต้องคอยตรวจดูว่าแก้วน้ำพร่องลงไปมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้เข้าไปเติมได้ทันที ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเรียกแล้วเรียกอีก

การใส่ใจในแก้วน้ำของลูกค้าถือเป็นการบริการเล็กๆ น้อยๆ แต่แสดงถึงความใส่ใจ และอาจทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำอีก

8.อาบน้ำหอมมาทำงาน

การฉีดน้ำหอมเพื่อดับกลิ่นกายถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ลืมว่าลูกค้าเข้าร้านอาหารก็หวังว่าจะได้กลิ่นอาหารที่หอมหวนชวนรับประทาน ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมของพนักงานฟุ้งกระจายไปทั่ว และถ้ากลิ่นอาหารตีกับกลิ่นน้ำหอมไปมา อาจทำให้อาหารมื้อนั้นหมดอร่อยไปโดยปริยาย

9.แต่งกายไม่เรียบร้อย

การแต่งกายของพนักงานก็เหมือนหน้าตาของร้าน ถ้าพนักงานแต่งกายไม่เรียบร้อยหรือดูไม่สะอาดสะอ้าน ลูกค้าอาจรู้สึกว่าร้านอาหารร้านนี้ไม่สะอาดและเลือกเดินเข้าร้านอื่นแทน ฉะนั้นทางที่ดีคุณควรมี Uniform ให้พนักงาน นอกจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังทำให้ลูกค้าทราบว่าคนที่เดินไปๆ มาๆ คือพนักงาน ไม่ใช่ลูกค้าโต๊ะอื่น

10.ไม่กล่าวขอบคุณ

การที่พนักงานไม่กล่าวขอบคุณ แม้ไม่ใช่พฤติกรรมที่สร้างปัญหา แต่เป็นการบริการสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ทำให้เขารู้สึกว่าเรายินดี เต็มใจบริการเขาอย่างเต็มที่ และคาดหวังให้เขากลับมาใช้บริการใหม่ เพียงแค่คำขอบคุณสั้นๆ ก็อาจเป็นประโยคที่เรียกให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอย่างสม่ำเสมอก็เป็นได้

หากร้านไหนพนักงานบริการมีพฤติกรรมเหล่านี้ ควรรีบปรับปรุงก่อนที่ลูกค้าจะหนีหมด แต่หากใครยังไม่รู้จะเทรนด์พนักงานอย่างไร ลองศึกษาวิธีได้จาก โกอ่าง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ ดูนะครับ

เรื่องแนะนำ

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้!

สถิติจาก Wongnai รายงานว่า ในบรรดาร้านอาหารที่เปิดหลังปี 2660 มีเพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด  ซึ่งปัญหาที่ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เป็นเพราะไม่ได้มีการวางแผนธุรกิจมาก่อน หรือศึกษากลุ่มลูกค้าในตลาดไม่ดีพอ และปัญหาสำคัญที่พบมากที่สุดจนทำให้ร้านต้องปิดกิจการลงนั้น คือการบริหารต้นทุนที่ผิดพลาด คุมต้นทุนไม่อยู่ บางร้านแม้จะขายดีแต่ก็ไม่มีกำไร ดังนั้น เจ้าของร้านควรจะต้องรู้จัก โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร ถ้าไม่อยากเจ๊ง   โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้! สิ่งจำเป็นที่คนจะเปิดร้านอาหารต้องรู้ ก็คือเรื่องของ โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร สิ่งนี้จะเป็นตัวแนะแนวทางว่า ในการจะเปิดร้านอาหาร คุณควรลงทุนกับอะไรบ้าง มีต้นทุนในส่วนไหนที่ต้องรู้ และจะต้องวางแผนอย่างไรก่อนที่จะเปิดร้านอาหาร  เบื้องต้นเราสามารถกำหนดโครงสร้างต้นทุนร้านอาหารได้เป็น 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้ ต้นทุนวัตถุดิบ (Food Cost) ค่าวัตถุดิบอาหาร รวมไปถึงค่าบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหาร เจ้าของร้านควรจะใส่ใจและควบคุมต้นทุนส่วนนี้ให้ดี โดยต้นทุนวัตถุดิบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน ถ้าเป็นร้านทั่วไปจะอยู่ที่ 25-30% แต่ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ อาจมีต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นเป็น 45-50% ซึ่งทางร้านอาจจะต้องชดเชยด้วยการลดต้นทุนด้านอื่น เช่น ต้นทุนแรงงาน โดยให้ลูกค้าบริการตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้กำไรในอัตราที่เหมาะสม หรือใช้วิธีการควบคุมต้นทุนในส่วนอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละร้าน   […]

มือใหม่เปิดร้านอาหาร …สร้างจุดขายในโลกออนไลน์อย่างไรให้ปัง!

หากคุณเปิดร้านอาหาร และต้องการทำตลาดออนไลน์ให้สำเร็จ ก็ต้องเริ่มต้นสร้างตัวตนในใจลูกค้าให้ได้ก่อน ร้านค้าเกือบทุกร้านใช้วิธีการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และแข่งกันด้วยการทำ Content Marketing จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ร้านของคุณจะสามารถเป็นหนึ่งในร้านที่ลูกค้าเลือก มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจ และนำไปปรับใช้กับร้านของคุณได้บ้างสำหรับ มือใหม่เปิดร้านอาหาร  มือใหม่เปิดร้านอาหาร …สร้างจุดขายในโลกออนไลน์อย่างไรให้ปัง! ทำให้….เหนือความคาดหมาย การสื่อสารที่ดีอย่างเหนือความคาดหมาย จะทำให้ลูกค้าจดจำคุณได้เพียงข้ามคืน  ยกตัวอย่างร้านอาหารเรือนจรุง ร้านอาหารไทยในจังหวัดอยุธยา สามารถรับลูกค้าได้เพียงโต๊ะเดียว การที่ลูกค้าจดจำว่าเป็นร้านที่จองยาก เป็นจุดขายที่แตกต่างก็จริง แต่ก็อาจจะทำให้ลูกค้าปัจจุบันที่ชอบความสะดวก ไม่ชอบรอนานจนถอดใจ แต่ร้านนำตรงนี้มาเป็นจุดแข็ง โดยกำหนดให้ลูกค้าอยากจะกินจริง ๆ เขียนจดหมายมาเพื่อบอกเหตุผลว่าทำไมถึงควรได้คิวที่ร้านไป การเขียนจดหมายเป็นรูปแบบวิธีการสื่อสารแบบเดิมขัดกับพฤติกรรมคนปัจจุบัน เป็นวิธีการที่เหนือความคาดหมาย แต่ยังสามารถบอกตัวตนของร้านที่เน้นการอาหารตำรับไทย ปรุงด้วยกรรมวิธีแบบเดิม ๆ อีกด้วย เห็นได้ว่า การทำให้เกิดการแชร์ Content เป็นเรื่องยากในปัจจุบัน แต่คนแชร์ที่เรื่องราวเหล่านี้ออกไปเพราะอยากแชร์ โดยไม่คำนึงว่ากำลังโฆษณาให้กับร้านนี้เลย จึงทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น   ทำให้รู้… Right Time Right Target           การสื่อสารว่าคุณเป็นร้านอาหารที่สามารถตอบความต้องการของลูกค้าในเรื่องรสชาติและบริการเป็นการสื่อสารกับลูกค้าทั่วไปที่อยากกินอาหารอยู่แล้ว มันจึงไม่เพียงพอ  การศึกษาความต้องการเชิงลึกของลูกค้าให้ได้ รู้ว่าลูกค้ามีปัญหาอะไร อยากได้อะไร และสามารถนำเสนอมันได้อย่างถูกเวลา จะทำให้ลูกค้าจดจำร้านของคุณได้มากกว่า เช่น ร้านอาจจะพบว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นหัวหน้าครอบครัว […]

แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน

แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน ไม่สั่งอาหารเพิ่ม

ลูกค้านั่งนาน รับลูกค้าอื่นไม่ได้ ควรทำอย่างไรดี? ปัญหาน่าปวดหัวที่หากแก้ไขผิดอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ เราจึงมีเทคนิคที่ช่วย แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน มาแนะนำ

ถอดบทเรียน ครัวกลางใหม่ Bear House ทำไมสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด

ถอดบทเรียน ครัวกลาง ใหม่ Bear House ทำไมสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด จากบทเรียนขาดทุน 17 ล้านบาท สู่การให้ความสำคัญด้านบัญชีอย่างจริงจัง ธุรกิจคุณให้ความสำคัญกับ ฝ่ายบัญชีและ HR มากแค่ไหน? เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะได้ดูคลิปพาทัวร์การก่อสร้างครัวกลางใหม่ ของสอง youtuber ชื่อดัง คุณกานต์ อรรถกร และคุณซารต์ ปัทมพร ยูทูปเบอร์ที่ได้ผันตัวมาทำธุรกิจอาหารแบรนด์ Bear House ควบคู่ไปด้วยแล้ว ที่มาของครัวกลางใหม่ ซึ่งคนที่ติดตามก็คงพอทราบเหตุผลของการสร้างครัวกลางใหม่ในครั้งนี้แล้วว่า เพราะ Bear House ต้องการครัวกลางที่อยู่ใกล้เมืองมากขึ้น และเพื่อลด Sizing ของครัวกลางให้เหมาะกับธุรกิจที่ทำ โดยระหว่างที่คุณกานต์และคุณซารต์กำลังพาทัวร์ครัวกลางใหม่ ก็ได้มีการบรรยายแผนผังของครัวกลางไปพร้อม ๆ กัน  ทำไมต้องสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด ซึ่งตอนหนึ่งของคลิปคุณกานต์และคุณซารต์ได้บอกว่า ตามผังของการก่อสร้างครัวกลางใหม่ในครั้งนี้ เขาได้วางให้ห้องบัญชีเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นห้อง HR ที่อยู่ติดกัน โดยทั้งสองได้ให้เหตุผลว่าทีมบัญชีและ HR เป็นฝ่ายด่านหลัง […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.