ทำร้านอาหาร มีแต่ passion ไม่มีระบบ ไม่รอดนะ!
ทุกวันนี้เวลาได้คุยกับคนที่เริ่ม ทำร้านอาหาร หรือร้านขนม หลายคนชอบบอกกับผมว่าเขาอยากทำร้าน เพราะเขาชอบทำอาหาร เวลาทำให้ญาติหรือเพื่อนๆ กินก็มีแต่คนบอกว่าอร่อย และเชียร์ให้เปิดร้านขายเลย
สุดท้ายหลายคนถึงขั้นยอมออกจากงานเงินเดือนดีๆ มาทำ หรือบางคนแทนที่สืบทอดกิจการจากที่บ้านก็ขอที่บ้านมาทำร้านเพราะอยากพิสูจน์ตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ การทำอาหารกับ การทำธุรกิจอาหาร มันคนละเรื่องกัน!
การมี Passion ในการทำงานเป็นเรื่องดี เพราะการทำร้านอาหารไม่ว่าร้านเล็กหรือใหญ่ คุณต้องพบเจอปัญหาตลอดทาง ตั้งแต่การเริ่มทำร้าน คิดเมนู ทำการตลาด ไปจนถึงการบริการ การเงิน-บัญชี หากไม่มี Passion ตั้งแต่ต้นแล้ว เชื่อว่าคงพับกระเป๋ากลับบ้านได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือนแน่นอน
แต่การมี Passion อย่างเดียวไม่สามารถทำให้ร้านอยู่รอดได้ แค่อยู่รอดนะ ไม่ได้หมายความจะประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ ผมขอยกตัวอย่างการทำร้านขนมเล็กๆ หนึ่งร้าน ว่าคุณจะต้องเจออะไรบ้าง อยากแรกคือเรื่องสถานที่ ตอนคุณทำขนมที่บ้าน คุณไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ตู้เย็นคุณก็ใช้ของที่บ้านได้ แต่พอคุณทำร้านคุณเอง ไหนจะค่าตกแต่ง ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่นๆ ฉะนั้นการวางแผนการเงิน การลงทุนก่อนทำร้านถึงมีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของร้านคุณเลยว่าควรจะไปทางไหน
ต่อมาคือเรื่องคน ตอนคุณทำขนมที่บ้าน คุณอยากทำวันไหนก็ได้ วันไหนเหนื่อยก็หยุดพัก แต่เมื่อทำร้าน จากความชอบกลายเป็นหน้าที่ วันไหนขี้เกียจก็ต้องตื่นมานั่งทำ วันหยุดเหมือนคนอื่นๆ ก็ไม่มี ต่อให้ไม่ทำเองก็ต้องให้ลูกน้องทำ ซึ่งบางวันก็ทำตามมาตรฐานเรา บางวันก็ทำตามใจตัวเอง อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ก็ทนให้ลูกค้าด่าไป อยู่ดีๆ วันหนึ่งลูกน้องอันประเสริฐของคุณก็ดันลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แล้วคุณเองก็ดันไม่ได้มีคนสำรองไว้ด้วย งานเข้าเลยทีนี้ ต้องมานั่งวุ่น หาคนมาช่วย หรือถ้าไม่ได้จริงๆ อาจถึงขั้นต้องปิดร้านในวันนั้นกันเลย
นี่แค่สองเรื่องเองนะ ยังไม่รวมเรื่องวัตถุดิบที่คุณต้องเสียเวลาขับรถไปซื้อแต่ละวัน เรื่องบัญชี ซึ่งเป็นเรื่องปวดใจของคนทำร้านอย่างเรา เหนื่อยทำเหนื่อยขายแทบตาย ยังจะต้องมานั่งทำบัญชีตอนสิ้นวัน แม้กระทั่งเรื่องการตลาดออนไลน์ที่ต้องคอยมานั่งโพสถ่ายรูปสวยๆ ให้คนไลค์ คนแชร์
ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ เพียงเพื่อที่จะบอกว่านอกจาก Passion ในการทำร้านแล้ว สิ่งที่คุณควรต้องทำคือ วางระบบการบริหารจัดการร้าน คุณในฐานะเจ้าของร้านก็เปรียบได้กับ CEO ของบริษัท หน้าที่ของคุณคือสร้างมาตรฐานการทำงานและควบคุมการทำงานของลูกน้องในแต่ละแผนกให้ทำงานบรรลุสิ่งที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงคิดกลุยทธ์ใหม่ๆ เพื่อหาลูกค้าใหม่ ไม่ใช่ลงไปทำเองในทุกๆ เรื่อง
รู้แบบนี้แล้ว ใครที่กำลังทำร้านอาหารแล้วมัวแต่ไปโฟกัสที่รสชาติอาหารหรือบริการ อย่าลืมแบ่งเวลามาวางระบบร้านให้ดีด้วย จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง
หากอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจ เรามีหลักสูตรเปิดร้านอาหาร…ไม่ให้เจ๊ง (Restaurant Feasibility Study) ที่จะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสสำเร็จให้คุณ