แนวคิดสำคัญช่วยให้ ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก เติบโต - Amarin Academy

แนวคิดสำคัญช่วยให้ ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก เติบโต

แนวคิดสำคัญช่วยให้ ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก เติบโต

บางคนใฝ่ฝันอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง มองเห็นภาพหน้าร้านสวยๆ ที่มีลูกค้านั่งอยู่เนืองแน่น แต่ความเป็นจริงแล้วภาพความสำเร็จที่เห็นอาจต้องแลกมากับชั่วโมงการทำงานอย่างหนัก ความมีระเบียบวินัย การให้ความใส่ใจอย่างเต็มที่ ฯลฯ ทำให้ความมีใจรักหรือมี Passion อย่างเดียวคงไม่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านอาหารขนาดเล็ก จะสามารถเติบโตได้อย่างไรในอุตสาหกรรมอาหารที่มีการแข่งขันสูง ลองมาดูแนวคิดสำคัญ 5 ข้อนี้ ที่จะช่วยในการดำเนิน ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก ให้มีโอกาสเติบโตและยืนได้ในระยะยาว

1.ให้ความสำคัญกับทีมงาน

เราเข้าใจว่าเจ้าของร้านอาหารมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ เพื่อสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้าคนสำคัญ แต่สำหรับพนักงานที่เหมือนกับฟันเฟืองของธุรกิจ คุณต้องให้ความสำคัญกับพวกเขาเช่นกัน หากไม่มีทีมงานที่ดีแล้วร้านของคุณอาจอยู่ห่างไกลจากคำว่าร้านอาหารที่มีอาหารและบริการที่ดีได้ ดังนั้นคุณต้องให้ความต้องการพื้นฐานกับพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นรายได้ สวัสดิการ โบนัส วันหยุด ฯลฯ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องลุยเดี่ยวและทำทุกอย่างด้วยตัวของคุณเอง

แม้ว่าการทำงานกับคนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบพร้อมไปทุกด้าน พนักงานของคุณอาจจะไม่ได้เก่งมาตั้งแต่แรก แต่การลงทุนให้เวลากับพนักงานที่เต็มใจเรียนรู้และมีความกระตือรือร้น ย่อมคุ้มค่าและเป็นวิธีการที่ทำให้ร้านอาหารที่ดีสามารถอยู่รอดได้

2.สร้างความเฉพาะตัว

คุณไม่สามารถเป็นทุกอย่างให้กับทุกคนได้ ในธุรกิจร้านอาหารไม่ได้มีแค่ผู้ที่ประสบความสำเร็จ ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไปไม่ถึงความฝันที่คิดไว้ “แนวคิด” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารขนาดเล็กสามารถดำเนินต่อไปได้ การกำหนดคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน จะทำให้ร้านของคุณโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ในตลาด คุณไม่จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้กว้างเพราะอยากเรียกคนเข้าร้าน คุณอาจโปรโมทร้านของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยเป็นกลุ่มลูกค้าประจำหรือกลุ่มคนที่คุณคาดว่าจะมีโอกาสเข้ามาเป็นลูกค้าของร้านในอนาคตดีกว่า

3.อย่าประหยัดจนเกินไป

ใช้เงินซื้อสิ่งที่มีคุณภาพดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งคนทำงาน เมื่อคุณใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพในการทำอาหาร ลูกค้าจะสามารถสัมผัสได้ในทันทีที่เขาได้ลิ้มลองรสชาติอาหารจากร้านคุณ การลงทุนในด้านเทคโนโลยีก็จะช่วยให้คุณในฐานะเจ้าของร้านก็จะมีเวลาในการไปบริหารจัดการงานในด้านอื่นๆ ได้อีกเยอะ และยิ่งคุณสามารถจ้างคนที่มีความสามารถ (ด้วยการให้ผลตอบแทนที่ดีกับเขา) ไม่ว่าจะเป็นเชฟ ผู้จัดการร้าน และพนักงานภายในร้าน คุณก็จะมั่นใจได้เลยว่าลูกค้าของคุณจะได้รับอาหารและบริการที่ยอดเยี่ยม

4.จัดสรรเวลา

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการที่เราสวมหมวกหลายๆ ใบในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่พ่อ แม่ ลูกที่ดี ทำงานประจำ ฯลฯ ซึ่งอาจดึงเวลาของเราออกไปจากการบริหารงานร้านอาหาร ดังนั้นการแบ่งเวลาที่ดีจะช่วยให้คุณไม่สับสนในการทำงาน เพราะไม่ว่าจะมีปัญหามากมายขนาดไหน คุณต้องไม่ลืมตรวจสอบคุณภาพของอาหารและบริการให้เป็นไปตามมาตรฐาน

อย่าใช้ปัญหาส่วนตัวมาเป็นข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลา” ไม่อย่างนั้นแล้วลูกค้าของคุณอาจได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีกลับไป นอกจากลูกค้าจะไม่อยากกลับมาที่ร้านอีก พวกเขายังอาจบอกต่อเพื่อนๆ ของเขาถึงประสบการณ์เลวร้ายที่ได้รับเพียงครั้งเดียวก็เป็นได้

5.อย่าลืมเงินทุนสำรอง

สำหรับคนที่พยายามจะเปิดร้านอาหารขนาดเล็กในงบประมาณที่จำกัด คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองมีเงินสดสำรองที่เอาไว้ใช้ “เผา” หรือหมุนเวียนในช่วง 2 – 3 เดือนแรก เพราะในช่วงแรกๆ ร้านของคุณอาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ทำให้จำนวนลูกค้าน้อย ในขณะที่ต้นทุนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ ค่าวัตถุดิบ ค่าจ้าง ฯลฯ ยังมีอยู่เท่าเดิม อีกทั้งคุณยังต้องใช้เงินไปกับการประชาสัมพันธ์ร้านของตัวเองให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย ดังนั้นการมีเงินสดสำรองไว้จะทำให้ร้านของคุณมีสภาพคล่องมากพอที่จะดำเนินกิจการให้ผ่านพ้นช่วงโค้งแรกไปได้

 

บทความที่น่าสนใจ

5 ข้อพลาดของนักธุรกิจ รุ่นใหม่

7 Wastes ในร้านอาหาร ลดได้ กำไรพุ่ง!

เรื่องแนะนำ

“กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” คือเมนูเดียวกันไหม?

“กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” เมนูคิดไม่ตก ทั้งร้านและลูกค้า สั่งอันนี้ได้อีกอย่าง ตกลงเมนูเดียวกันไหม? “กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” เมนูเดียวกันหรือเปล่า? เป็นเมนูที่ค่อนข้างสร้างความสับสนให้กับทั้งคนกิน คนขาย เป็นอย่างมากกับเมนู “กะหล่ำผัดน้ำปลา” และ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” ที่บางทีก็ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างลูกค้าและร้านได้ เมื่อเมนูนี้มาเสิร์ฟ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งได้มาทวีตภาพเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว 2 เมนูนี้ คือคนละเมนูกัน! โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ได้ทวีตรูป 2 เมนูที่เป็นประเด็นพร้อมข้อความว่า “เทียบให้เห็นภาพ ซ้าย กะหล่ำ “ผัดน้ำปลา” ขวา กะหล่ำ “ทอดน้ำปลา” ที่เรามีปัญหาเพราะร้านอาหารส่วนมากจะเขียนลงเมนูว่า กะหล่ำทอดน้ำปลา แต่ทำออกมาหน้าตาแบบกะหล่ำผัด กะหล่ำผัดน้ำปลาจะน้ำเจิ่งนอง ผัดนิ่ม กะหล่ำทอดน้ำปลาจะแห้ง น้ำมันเคลือบผิวกะหล่ำ เกรียม ๆ น้ำปลาไหม้ ต่างอย่างเห็นได้ชัด” 🔸ความเห็นชาวเน็ต💬 ซึ่งหลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์ของตนเองด้วยเหมือนกัน เช่น 🗣💬 “เคยทำให้แฟนกินครั้งนึง เราทำออกมาแบบขวา ผช.บอกทำกับข้าวแค่นี้ก็ไหม้ […]

9 Checklist

9 Checklist ธุรกิจ ควรทำ ถ้าไม่อยากเจ๊ง!

ทำธุรกิจต้องหมั่นตรวจสอบระบบการทำงานอยู่เสมอ เพื่อเช็คว่าธุรกิจของคุณมีปัญหาอะไร อย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า Checklist ธุรกิจ ที่เจ้าของธุรกิจควรทำมีอะไรบ้าง

เทียบ ข้อดี – ข้อพิจารณา บริการน้ำเปล่า “ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ” กับ “ให้ลูกค้าสั่งกับพนักงาน”

เทียบ ข้อดี – ข้อพิจารณา บริการน้ำเปล่า “ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ” กับ “ให้ลูกค้าสั่งกับพนักงาน” บริการแบบไหนเหมาะกับร้านคุณ!? เวลาไปร้านอาหารคุณชอบบริการแบบไหนมากกว่ากัน!? ระหว่างร้านที่ “ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ” กับ “ให้ลูกค้าสั่งกับพนักงาน” ในแง่ของผู้ประกอบการรูปแบบบริการ 2 อย่างข้างต้นต่างก็มีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับร้าน แต่แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าแบบไหนเข้ากับร้านเราล่ะ ? ลองมาดูข้อดี ข้อด้อยของบริการน้ำดื่ม 2 รูปแบบนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจนำมาปรับใช้กับร้านคุณสิ! . หมายเหตุ: น้ำดื่มที่ยกมาพูดถึง คือ น้ำเปล่า ซึ่งในที่นี้จะขอเรียกสั้น ๆ ว่า “น้ำ” . <<ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ>> ข้อดี 1.แน่นอนว่าวิธีนี้ทำให้ลูกค้าสามารถหยิบน้ำดื่มเติมเองได้ทันที ไม่ต้องรอเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์หรือรอพนักงานเดินไปหยิบน้ำมาเสิร์ฟ เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ทันใจลูกค้า 2.เนื่องจากการมีน้ำมาตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มเปิดเครื่องดื่มเพิ่มมากกว่าการต้องสั่งให้พนักงานมาเสิร์ฟ เพราะลูกค้าสามารถตัดสินใจได้เดี๋ยวนั้น จะดื่มก็หยิบเพิ่มเลย ในทางกลับกันถ้าต้องใช้เวลาในการรอ ลูกค้าก็อาจจะเปลี่ยนใจแล้วเลือกที่จะกลับไปกินที่บ้านหรือที่อื่นแทน เพราะเพียงเสี้ยวนาทีก็มีผลต่อการตัดสินใจ 3.เมื่อมีน้ำไว้บริการบนโต๊ะอยู่แล้วทำให้ภาระงานของพนักงานลดลง ข้อนี้อาจเห็นได้ไม่ชัดในการเสิร์ฟรอบแรก เพราะถึงพนักงานไม่ได้มาเสิร์ฟน้ำ แต่ก็อาจมีการเสิร์ฟน้ำแข็ง และต้องเสิร์ฟอาหารอยู่แล้ว แต่เมื่ออาหารออกหมด ลูกค้ารับประทานมาได้สักพักน้ำก็อาจจะหมด ทีนี้เมื่อมีน้ำอยู่บนโต๊ะ […]

ถ้าตัดสินใจลุยต่อ! สิ่งที่ต้องทำคืออะไรบ้าง? ในวันที่ขายได้แค่ “ซื้อกลับบ้าน”

ถ้าตัดสินใจลุยต่อ! สิ่งที่ต้องทำคืออะไรบ้าง? ในวันที่ขายได้แค่ “ ซื้อกลับบ้าน ” วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ดูจะไม่หายไปง่าย ๆ ถ้านับจากตอนระบาดใหม่ ๆ ก็กินเวลามาเป็นปี ๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการก็ต่างอยู่ในจุดที่ต้องกอดเงินที่มีอยู่ไว้ให้แน่น  ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ประกอบการควรมีการวางแผนการเงินในระยะยาวให้ธุรกิจของคุณยังคงไปต่อได้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤต ลองมาดูสิ่งที่ต้องทำในวันที่ขายได้แค่ “สั่งกลับบ้าน” 1.ประเมินความพร้อม: จากบทเรียนการระบาดครั้งก่อน ร้านที่ได้ลองทำเดลิเวอรีแล้วก็พอจะเห็นสถิติและพอประเมินได้ว่า ถ้าต้องเปลี่ยนมาขายแบบซื้อกลับเป็นหลัก ร้านจะมีรายได้เท่าไหร่ พอสำหรับจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือไม่ ถ้าประเมินแล้วคิดว่ารายได้โอเค สู้ไหว เปิดแล้วทำให้ร้านพอมีรายได้เข้าบ้างก็ไปข้อต่อไป 2.ต่อรองประนอมหนี้: “รายได้ลดลง รายจ่ายเท่าเดิม” สิ่งต่อมาที่ผู้ประกอบการต้องทำ คือ ลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ได้มากที่สุด ให้ตัวเบาที่สุด โดยทำการพูดคุยตกลงกับเจ้าของที่เพื่อขอลดค่าเช่า หรือขอแบ่งเบาภาระหนี้สินกับธนาคาร อย่างน้อย 1 – 2 เดือน เพื่อลดรายจ่ายเท่าที่เป็นไปได้ 3.เอายังไงกับพนักงาน: แม้ร้านจะไม่เปิดให้บริการนั่งทานในร้าน แต่การจ่ายค่าจ้างพนักงานยังคงอยู่ ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้ คือ พยายามลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานให้ลดลง โดยการประเมินงานที่ต้องทำในแต่ละวันก่อนว่าร้านเราน่าจะใช้คนเท่าไหร่ ถ้าใช้คนน้อยให้ลองใช้วิธีแบ่งกะเวลาการทำงาน สลับเวลากันมาทำ แต่ต้องคุยกับพนักงานให้ชัดว่า ช่วงนี้อาจจะให้ค่าตอบแทนได้น้อยลง แต่อย่างน้อยก็มีงานทำอยู่ พร้อมทั้งวางแผนการทำงานให้ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.